Niwat Chatawittayakul คอลัมนิส และนักธุรกิจ ปัจจุบันทำธุรกิจด้านวางแผนกลยุทธ์การตลาดและโฆษณาดิจิทัล อีกฝั่งสวมหมวกบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีโดย มุ่งความสนใจไปที่ BigData Blockchain และ Digital Transformation

Zero UI อนาคตของดิจิทัลดีไซน์

15 sec read

UI หรือ Users-Interface คือส่วนของการออกแบบเพื่อเป็นตัวกลางในการพูดคุยกันระหว่าง เครื่องจักร และ มนุษย์ โดยส่วนใหญ่ที่เราเจอก็หน้าจอการใช้งานเว็บไซต์ หน้าจอการใช้งานมือถือ หรือ Application นั่นแหละครับ

Zero UI กำลังเปลี่ยนแปลงวงการดีไซน์ทั้งหมดครับ มันคือมิติใหม่ของศาสตร์การออกแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนหน้านี้ การสั่งการทำงานในขั้นตอนหรือการทำงานที่ซับซ้อนโดยที่ไม่มีส่วนการสั่งงานแบบสัมผัส การคลิกกด เพื่อระบบความต้องการจะออกแบบอย่างไรนั่นเป็นความท้าทาย

ความคิดเรื่อง Zero UI นั้นเริ่มเป็นรูปเป็นร่างด้วยความเอื้อทางเทคโนโลยีที่พัฒนา เราสามารถสั่งงานด้วยสิริ คุยกับ Google Now สั่งงานด้วยเสียงได้หลายภาษาและมีความแม่นยำเที่ยงตรงมากขึ้น หรือการสั่งงานด้วยท่าทาง ใช้ร่างกายเป็นส่วนหนึ่งของการสั่งงาน ทั้งร่างกาย และเสียง ก็จะทำให้การสั่งงานคอมพิวเตอร์นั้นไม่จำเป็นต้องมีหน้าจอการสั่งงานตัวกลางในการพูดคุยกับเครื่องจักร

ความท้าทายของการออกแบบ UI แบบ Zero UI มี 3 Concept หลักๆ

a screen-less ลดหน้าจอในการสั่งการทำงาน

จากเดิมที่เราใช้หน้าจอเป็นตัวกลาง Medium ในการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์และผู้ใช้งาน หลักการของ Zero UI ลด ละ เลิก การใช้หน้าจอในการสื่อสาร กับผู้ใช้ นั่นเป็นความท้าทายนักออกแบบเราจะไม่ต้องมาคำนึงถึงการวางปุ่ม การทำงานในขนาดหน้าจอต่างๆ แต่ทำยังไงให้การทำงานยังคงทำงานได้เหมือนเดิม ไม่ต้องพึ่งพาหน้าจอเพื่อสื่อสารอีกต่อไป

invisible user interface

UI ล่องหน ผมขอใช้คำว่า UI ล่องหน แน่นอนว่า เราจะไม่สามารถเปลี่ยนให้ผู้คนทั่วโลกมาใช้ Zero UI ได้ทันที ต้องอาศับเวลาในการเปลี่ยนผ่าน การออกแบบหน้าจอการทำงาน UI คงยังต้องทำการออกแบบ UI หน้าจอการใช้งานในบริบทของผู้ใช้ที่ยังใช้จอสั่งการ แต่ก็ต้องคิดเผื่อการออกแบบในอุปกรณ์ที่ไม่แสดงหน้าจอ UI ได้เช่นกันภายใต้ระบบเดียว คำว่า UI ล่องหน จึงเหมาะ UI ยังคงมีอยู่แต่ผู้ใช้มองไม่เห็นเพราะมันถูกซ่อนด้วยการออกแบบในแนวคิด Zero UI

Touch less

ลดการสั่งงานด้วยการสัมผัสลง เราเห็นการสั่งงานด้วยเสียงมามากแล้ว ทั้งในระบบ Android และ iOS หรือแม้ในรถยนต์ที่ผมขับอยู่สามารถสั่งงานให้โทรออกได้ด้วยเสียงแค่พูดชื่อคนที่เราอยากโทรหา หรือการใช้ร่างกายในการสั่งงานแทนการสัมผัส ลองผ่านบทความเกี่ยวข้องกับ Physical Control หรือ gesture-based user interfaces จะเห็นภาพมากขึ้น ซึ่งก็มีให้เห็นกันแล้วหลากหลายอุปกรณ์ที่ออกมา ตัวอย่าง

ตัวอย่างการใช้ Voice Control + กับ Physical Control

whatisit

Amazon Echo

คอมพิวเตอร์ที่ควบคุมด้วยเสียงเป็นหลัก ทำหน้าที่รอรับคำงานจากผู้ใช้ด้วยเสียง สามารถสั่งงานให้ทำงานจัดการสิ่งที่ต้องทำถามคำถามข้อมูลทั่วไป รวมถึงจัดการรายการซื้อสินค้าด้วย ซึ่งแนวคิดเดียวกับกับ Siri หรือ Google Now เพียงแต่ว่า Echo นั้นถูกแยกออกมาด้วยอุปกรณ์ของตัวเอง ไม่ได้ถูกรวมอยู่กับ Smartphone เหมือน Siri

Welcome to Project Soli – เป็นเทคโนลีในการใช้ร่างกายในการ Control เครื่องจักร ด้วยแนวทางวิธีใหม่ทำให้เห็นภาพ Zero UI มากขึ้น

ในความคิดผมคิอว่า Zero UI เป็นสิ่งที่ท้าทายก็จริง ก็คงทำให้การทำงานของผู้ใช้โดยทั่วไปสะดวกสบายขึ้น เชื่อว่าการออกแบบจะทำได้ดี พัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งผู้ใช้ที่ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ พื้นความรู้สามารถสั่งการทำงานได้แบบสบายๆ ในครั้งแรก แต่ถ้านึกถึงภาพหนังเรื่อง Iron Man จาวิส ผู้ช่วยคนสำคัญของไอรอนแมน ที่สามารถรับคำสั่งได้ทุกอย่างจากเสียง แต่เมื่อเป็นการทำงานอะไรที่ซับซ้อน นึกถึงภาพในห้องทดลองของ โทนี่ สตาร์ค ก็ยังต้องใช้นิ้วขยับ ย่อขยายพิมพ์คีบอร์ดแบบอากาศอยู่ดีในส่วนนั้นก็คงยากเหมือนเดิมเพียงแต่เพิ่มเรื่องการสั่งงานด้วยเสียงมาลดทอนความยุ่งยากไปได้ แต่สำหรับผู้ใช้ทั่วไปนั้น Zero UI ทำให้ขีดจำกัดเรื่องเทคโนโลยีลดกำแพงไปอย่างมาก

Source fastcodesign | fjordnet | sixrevisions