Niwat Chatawittayakul คอลัมนิส และนักธุรกิจ ปัจจุบันทำธุรกิจด้านวางแผนกลยุทธ์การตลาดและโฆษณาดิจิทัล อีกฝั่งสวมหมวกบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีโดย มุ่งความสนใจไปที่ BigData Blockchain และ Digital Transformation

PR News : Adobe CS6 สุดยอดนวัตกรรมสำหรับงานดีไซน์ ออกแบบเว็บไซต์และวีดีโอโปรดักชั่น

56 sec read

กรุงเทพฯ ประเทศไทย — 27 เมษายน 2555 — บริษัท อะโดบี ซิสเต็มส์ (Nasdaq:ADBE) เปิดตัวสุดยอดชุดผลิตภัณฑ์สำหรับงานดีไซน์ การออกแบบเว็บไซต์ และวิดีโอโปรดักชั่นระดับมืออาชีพ พร้อมเผยโฉมกลุ่มผลิตภัณฑ์ Adobe® Creative Suite® 6 และรีลีสใหม่ๆ ของ CS6 ถึง 14 แอพลิเคชั่น ใน 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ครีเอทีฟซึ่งประกอบด้วย 1) Adobe Creative Suite 6 Design & Web Premium 2) Adobe Creative Suite 6 Design Standard 3) Adobe Creative Suite 6 Production Premium 4) Adobe Creative Suite 6 Master Collection ตอกย้ำความมุ่งมั่นของอะโดบีในการผลักดันนวัตกรรมที่สร้างสรรค์สำหรับวงการครีเอทีฟอย่างต่อเนื่อง

นายเดวิด วาดวานี่ รองประธานอาวุโสฝ่ายดิจิตัลมีเดียของอะโดบี กล่าวว่า “นักออกแบบจะได้รับประโยชน์จากนวัตกรรมมากมายใน CS6 จากการเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก และสำหรับ CS6 เรานำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ เวิร์กโฟลว์ใหม่รูปแบบโมบายล์ และความสามารถที่ก้าวล้ำในกระบวนการสื่อสิ่งพิมพ์ (publishing) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเรามุ่งมั่นที่จะจัดหาเทคโนโลยีที่พร้อมสรรพให้แก่นักออกแบบ มืออาชีพด้านเว็บไซต์และวิดีโอโปรดักชั่นเพื่อสามารถนำเสนอคอนเทนต์และแอพพลิเคชั่นให้เป็นที่กล่าวถึงในวงกว้าง”

การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่นี้นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับประเทศไทย เพราะรัฐบาลมีแผนที่จะส่งเสริมนโยบาย “Creative Economy” เพื่อรองรับการพัฒนาประเทศด้านการสร้างสรรค์ ดังจะเห็นได้จากเนื้อหาฉบับร่างของแผนพัฒนาประเทศฉบับที่ 11 และโครงการสำคัญของรัฐบาล 9 โครงการ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมครีเอทีฟภายใต้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่สอง (โครงการไทยเข้มแข็ง) โดยเป้าหมายหลักคือ เพื่อให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมครีเอทีฟในภูมิภาคอาเซียน และเพิ่มสัดส่วนจีดีพีให้กับธุรกิจครีเอทีฟจาก 12% เป็น 20% ภายในสิ้นปี 2555 นอกเหนือจากประเทศไทยแล้ว ประเทศอื่นๆ เช่น สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ จีน และอินเดีย ได้กำหนดนโยบายในการสนับสนุนงานสร้างสรรค์และทรัพย์สินทางปัญญาเช่นกัน

มาร์ค ฟิบส์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดของอะโดบี ซิสเต็มส์ เอเชีย-แปซิฟิก กล่าวว่า “วิสัยทัศน์ของอะโดบีคือ การเปลี่ยนแปลงโลกของเราโดยอาศัยประสบการณ์ด้านดิจิตอล ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่นี้ได้ต่อยอดจากชื่อเสียงของเราในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมซอฟต์แวร์ โดยจะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถให้แก่บุคลากรด้านครีเอทีฟของไทยในการสร้างสรรค์ผลงานจากแนวคิดที่แปลกใหม่ได้อย่างสมจริง รวมทั้งนำเสนอผลงานที่เป็นรูปธรรม พร้อมทั้งจัดการเกี่ยวกับรูปแบบและช่องทางการนำเสนอผลงานสู่ผู้ชมทั้งบนสมาร์ทโฟน, แทบเล็ต, เดสก์ท็อป รวมถึงสื่อดั้งเดิมและสื่อปัจจุบัน (traditional media) อะโดบีเป็นผู้นำในการจัดหาเครื่องมือ HTML เพื่อให้นักออกแบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยครอบคลุมอุปกรณ์และแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น iOS, Android, Windows Mobile หรือ Symbian”

ไนเจล ฮาร์เปอร์ ผู้อำนวยการของ ESPN Player มีหน้าที่จัดการดูแลทีมงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการสตรีมมิ่งรายการ ESPN STAR Sports ให้แก่ผู้ชมทางออนไลน์ทั่วโลกบนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ในฐานะผู้ใช้โซลูชั่น Digital Marketing และ Digital Media ของอะโดบี ไนเจล ฮาร์เปอร์ รู้สึกยินดีต่อการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ โดยกล่าวว่า “Creative Suite 6 ช่วยให้เรานำเสนอดีไซน์อินเทอร์เฟซรีแอคทีฟที่สวยงาม ช่วยในการปรับเปลี่ยนคอนเทนต์สำหรับจอแสดงผลขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เพื่อให้ผู้ชมดื่มด่ำกับรายการ ESPN STAR Sports รวมถึงรายการข่าว และโซเชียลมีเดียได้อย่างเต็มที่บนทุกอุปกรณ์ภายใต้ระบบการทำงานและบริการแบบครบวงจรของเรา”

มร. มาร์ค สเตลซ์เนอร์ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการประจำภูมิภาคเอเชียของบริษัท GSD Graphic Solutions Digital ได้ทดลองใช้งานโซลูชั่นใหม่นี้ โดยเขาให้ความเห็นว่า “เรารู้สึกประทับใจในเครื่องมือและความสามารถที่หลากหลายของ Creative Suite 6 จากอะโดบี บริษัทของเรารับงานโปรดักชั่นขนาดใหญ่ ดังนั้นเราจึงต้องรับมือกับแรงกดดันอย่างมากสำหรับการทำงานอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เราพบว่า Creative Suite รุ่นล่าสุดนี้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพในหลายๆ ส่วน เช่น การสนับสนุนระบบ 64 บิต และ Mercury Graphics Engine ที่รวมอยู่ในชุดซอฟต์แวร์ นอกจากนี้ เรายังสามารถบันทึกงานของเราขณะที่กำลังทำงานต่อเนื่องบนไฟล์ใน Photoshop ได้อีกด้วย ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์อย่างมากในกรณีที่เราต้องทำงานอย่างเร่งรีบ”

>อัพเกรดส่วนหลักๆ ของ CS และเปิดตัว Muse Anchor สำหรับดีไซเนอร์
การปรับปรุงประสิทธิภาพและเวิร์กโฟลว์ใน Adobe Photoshop CS6, InDesign CS6 และ Illustrator CS6 จะช่วยประหยัดเวลาได้อย่างมากสำหรับโปรเจ็กต์สื่อสิ่งพิมพ์ เว็บไซต์ และโมบายล์

• ใน Photoshop CS6 นักออกแบบจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่เหนือชั้น ด้วย Adobe Mercury Graphics Engine ซึ่งรองรับการแสดงผลเกือบจะในทันทีจากเครื่องมือแก้ไขหลักๆ เช่น Liquify, Puppet Warp, Transform และ Lighting Effects

• อะโดบีได้พัฒนาต่อยอดจากความสามารถที่ก้าวล้ำของ Photoshop ในการรับรู้เนื้อหาคอนเทนต์ (Content-Aware) โดยนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น Content-Aware Patch และ Content-Aware Move

• Illustrator CS6 ประกอบด้วยอินเทอร์เฟซที่ทันสมัย พร้อมด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น Image Tracing Engine, Pattern Creation และ Gradient Strokes นอกจากนี้ ระบบจัดการประสิทธิภาพ Mercury จะช่วยเพิ่มความรวดเร็วและเสถียรภาพ รวมไปถึงการสนับสนุน 64 บิตสำหรับ Mac OS และ Windows

• InDesign CS6 ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในด้านสื่อสิ่งพิมพ์ โดยจะเพิ่มความคล่องตัวในการสร้างเลย์เอาต์หลายๆ แบบจากเนื้อหาคอนเทนต์ชุดเดียวกันโดยใช้ Adaptive Design Tools ซึ่งประกอบด้วย Alternate Layout, Liquid Layout, Content Collector Tools และ Linked Content

• พร้อมกันนี้ มีการเปิดตัวแอพพลิเคชั่นใหม่ล่าสุด Adobe Muse ซึ่งเป็นเครื่องมือแปลกใหม่ที่ช่วยให้นักออกแบบสามารถสร้างและจัดพิมพ์เผยแพร่เว็บไซต์ HTML5 โดยไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ด

อะโดบีปรับปรุงเครื่องมือ HTML5 สำหรับมืออาชีพด้านเว็บไซต์
เวิร์กโฟลว์และความสามารถใหม่ๆ ในเครื่องมือของอะโดบีจะช่วยลดความยุ่งยากซับซ้อนในกระบวนการด้านครีเอทีฟสำหรับนักออกแบบเว็บไซต์ Developer และมืออาชีพด้าน Interactive

• นักออกแบบเว็บจะสามารถผนวกรวมภาพเคลื่อนไหว HTML5 ที่สร้างด้วย Adobe Edge Preview ไว้ในโครงงาน Dreamweaver ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งนับเป็นเครื่องตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำของอะโดบีในการจัดหาเครื่องมือสำหรับมาตรฐานเว็บ HTML5

• Dreamweaver CS6 แก้ไขปัญหาท้าทายด้านการออกแบบเว็บ ด้วยความสามารถในการสร้างเลย์เอาต์แบบกริดที่ลื่นไหล ซึ่งทดแทนกระบวนการแบบเดิมๆ ที่ใช้บุคลากรในการสร้างและกำหนดค่าอินเทอร์เฟซ CSS แยกต่างหากสำหรับโทรศัพท์ แทบเล็ต และเดสก์ท็อป

• ด้วยการผนวกรวมโดยตรงกับบริการ PhoneGap Build ที่อะโดบีเพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ Dreamweaver CS6 จะช่วยเสริมสร้างทักษะการทำงานของบุคลากรด้านเว็บ และช่วยให้สามารถสร้างโมบายล์แอพพลิเคชั่นแบบเนทีฟสำหรับแพลตฟอร์มที่หลากหลาย

• ผู้ใช้ Flash Professional CS6 จะสามารถใช้ทักษะของตนเองบน HTML5 ได้อย่างเต็มที่ โดยใช้ Flash Professional Toolkit สำหรับ CreateJS นอกจากนี้ Flash Professional CS6 จะช่วยให้นักออกแบบสร้างประสบการณ์เกมที่น่าตื่นเต้นและก่อให้เกิดผลกระทบอย่างกว้างขวาง พร้อมความก้าวหน้าในส่วนต่างๆ เช่น ความสามารถในการสร้างแบบร่างหรือ Sprite Sheet ซึ่งจะช่วยปรับปรุงเวิร์กโฟลว์และประสิทธิภาพการทำงาน

• ส่วนขยายแบบเนทีฟและออปชั่นเสริมใหม่ๆ ซึ่งใช้ประโยชน์จาก Adobe Flash Player รุ่นล่าสุด และรันไทม์ AIR ช่วยขยายและเพิ่มความสะดวกในการนำเสนอแอพพลิเคชั่นไปสู่อุปกรณ์ Android และ iOS

Production Premium CS6 ขยายขอบเขตในการสร้างสรรค์งานวิดีโอ
Adobe Creative Suite 6 Production Premium ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับบุคลากรด้านการตัดต่อวิดีโอ ด้วยส่วนปรับปรุงประสิทธิภาพที่สำคัญๆ พร้อมเครื่องมือมากมาย ยกระดับมาตรฐานในด้านวิดีโอโปรดักชั่น

• ด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย จึงทำให้ Adobe Premiere Pro CS6 กลายเป็นศูนย์กลางสำหรับเวิร์กโฟลว์วิดีโอระดับมืออาชีพ โดยนำเสนอสภาพแวดล้อมการตัดต่อวิดีโอที่ทันสมัย นอกจากนี้ Adobe Mercury Playback Engine ยังสนับสนุน OpenCL บน MacBook Pros อีกด้วย

• After Effects CS6 นับเป็นรีลีสสำคัญที่สุดของ After Effects โดยทำงานได้อย่างรวดเร็วและตอบสนองฉับไวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และด้วย Global Performance Cache คุณจึงสามารถบันทึกตัวอย่างผลงานและพร้อมทำงานได้ทันที จึงช่วยลดเวลาที่ใช้ในการสลับไปมาระหว่างโปรเจ็กต์ต่างๆ

• นอกจากนี้ Production Premium ยังประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ Adobe® Prelude™ CS6 ซึ่งเพิ่มความคล่องตัวในการลงบันทึกและประมวลผลเวิร์กโฟลว์ในงานโพสต์โปรดักชั่น และ Adobe SpeedGrade ซึ่งประกอบด้วยเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการตกแต่งฟิล์มและการปรับแต่งสี
• Adobe Audition CS6 เพิ่มความรวดเร็วให้กับงานโพสต์โปรดักชั่นทางด้านเสียง ด้วยการขยายคลิปแบบเรียลไทม์เพื่อให้เหมาะกับการตัดต่อ และการปรับเสียงพูดอัตโนมัติ ซึ่งประกอบด้วยเอนจิ้นใหม่สำหรับการวิเคราะห์เสียงสนทนาแบบอัตโนมัติ
• API ใหม่สำหรับการผนวกรวมฮาร์ดแวร์ นั่นคือ Adobe Mercury Transmit รองรับการเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างระบบตรวจสอบวิดีโอบรอดคาสต์กับ Mercury Playback Engine โดยใช้การ์ดจาก AJA, Blackmagic Design และ Matrox

พร้อมกันนี้ อะโดบีได้เปิดตัวบริการ Adobe Creative Cloud ในบางประเทศ โดยนับเป็นหนทางใหม่ที่สำคัญในการจัดหาเครื่องมือและบริการที่จะปฏิรูปกระบวนการทำงานของครีเอทีฟทั่วโลก โดยการจัดหา ‘ระบบส่วนกลาง’ (Hub) ในการสร้าง แชร์ และนำเสนอผลงานครีเอทีฟ
ชานทานู นาราเยน ซีอีโอของอะโดบี กล่าวว่า “แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานมีอยู่ทุกที่ในตัวเราทุกคน ตั้งแต่เด็กนักเรียนไปจนถึงครีเอทีฟระดับมืออาชีพ ปัจจุบันการใช้ประโยชน์จากความคิดสร้างสรรค์ก็มีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เราทุกคนมีศักยภาพในการสร้างสรรค์ทุกที่ทุกเวลาตราบใดที่เรายังมีแรงบันดาลใจ และอะโดบีก็พร้อมเสมอที่จะช่วยให้คุณรวบรวมความคิดสร้างสรรค์และไอเดีย สร้างและปรับแต่ง รวมถึงเผยแพร่มันได้อย่างสมบูรณ์”

ราคาและการวางจำหน่าย
ผลิตภัณฑ์ Adobe Creative Suite 6 และ Adobe Creative Cloud จะวางจำหน่ายภายใน 30 วัน และสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้ววันนี้ ผ่านทางตัวแทนจำหน่ายของอะโดบีและร้านค้า Adobe.com สำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ http://shop.adobe.com/sea/ ราคาจำหน่ายของ Creative Suites CS6 Master Collection อยู่ที่ 92,142 บาท, CS6 Design & Web Premium อยู่ที่ 67,335 บาท CS6 Design Standard อยู่ที่ 46,071 บาท และ CS6 Production Premium อยู่ที่ 67,335 บาท นอกจากนี้ มีราคาพิเศษสำหรับการอัพเกรดและ Volume Licensing ราคาดังกล่าวไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและอาจเปลี่ยนแปลงตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ

นอกจากนั้น ยังมีราคาพิเศษสำหรับนักเรียนนักศึกษา คณาจารย์ และบุคลากรของสถานศึกษาในระดับชั้นมัธยมและอุดมศึกษา สอบถามเพิ่มเติมได้จากตัวแทนจำหน่ายของอะโดบี หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาพิเศษสำหรับสถานศึกษาในระดับชั้นมัธยมและอุดมศึกษา คลิกไปที่: http://www.adobe.com/sea/education.html
หากต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับฟีเจอร์ ระบบปฏิบัติการที่รองรับ นโยบายการอัพเกรด ราคา และเวอร์ชั่นภาษาต่างประเทศ โปรดดูที่: http://www.adobe.com/sea/products/creativesuite.html

ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของอะโดบีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถติดต่อกับทีมงานของอะโดบี รวมถึงบุคลากรด้านครีเอทีฟและผู้สนใจทั่วไปได้โดยตรงบนเฟซบุ๊ค เพื่อติดตามข่าวคราว ข้อมูลอัพเดต และโปรโมชั่นที่ http://www.facebook.com/AdobeSEA

เกี่ยวกับ บริษัท อะโดบี ซิสเต็มส์ อินคอร์เปอเรทเต็ด
อะโดบีเปลี่ยนโลกใบนี้ด้วย ประสบการณ์ดิจิตอล ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.adobe.com