Niwat Chatawittayakul คอลัมนิส และนักธุรกิจ ปัจจุบันทำธุรกิจด้านวางแผนกลยุทธ์การตลาดและโฆษณาดิจิทัล อีกฝั่งสวมหมวกบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีโดย มุ่งความสนใจไปที่ BigData Blockchain และ Digital Transformation

วิถีการสร้างสินค้าให้ขายดีในแบบ Apple

9 sec read

หลังจาก iPhone 6 เปิดขายอย่างเป็นทางการ ในบ้านเรา บรรดาแฟนๆ สั่งจองเครื่องกันจนทะลัก ทำเอาขาดตลาด สินค้าหน้าร้านหมดจากสต๊อกและโดยผู้ที่เข้ามาซื้อและรับเครื่องเป็นคนที่สั่งจองล่วงหน้า ส่วนคนที่ไม่ได้สั่งจองก็สามารถซื้อแต่ได้แต่เป็นขนาดที่ความจุ 16GB เท่านั้นซึ่งขนาดนี้ไม่เพียงพอต่อความต้องการคนใช้สมาร์ทโฟนเท่าไหร่นัก ส่วนความต้องการ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus นั้นจากการที่ผมลองสอบถามไปยังร้านค้าโดยส่วนมากพูดเป็นเสียงเดียวกันส่วนมากลูกค้าจะเข้ามาซื้อเครื่อง iPhone 6 plus มากกว่า iPhone 6 สินค้ายังคงขาดตลาด ขณะที่ในจีนเองหลังจากมีการเปิดตัว ไอโฟนรุ่นใหม่ มีการสำรวจแบรนด์มือถือที่ผู้ใช้ชาวจีนรู้จัก มีความภักดีต่อแบรนด์นั้นมากที่สุด Apple กลับขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งแทน Samsung ที่ทำคะแนนขึ้นมาแต่น้อยกว่า Apple

เสียงตอบรับจากการเปิดตัว iPhone จอใหญ่ในครั้งนี้ถึงแม้ว่าจะดูไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่นักแต่ต้องบอกว่าการมาถึงเลข 6 จะเขย่าวงการ SmartPhone อีกครั้งเพราะแม้จะได้รับคำติเรื่องหน้าตาการออกแบบ เทคโนโลยีที่ไม่ได้มีอะไรใหม่ เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนที่มีอยู่ในท้องตลาดอยู่แล้ว แต่ทั้งยอดขายและกระแสตอบรับกลับส่งผลในทางที่ดีแทบทั้งสิ้น แนวโน้มคนที่เปลี่ยนจากระบบปฏิบัติการ Android ย้ายมา iOS ก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้น เหตุผลสำคัญในฐานะผู้บริโภคก็คือ คนจำนวนมากต้องการมือถือจอใหญ่ และไอโฟนรุ่นใหม่มีสิค้าที่พวกเค้าต้องการแล้ว ผมว่า Apple แม้ว่าจะช้าไปนิดเรื่องมือถือจอใหญ่แต่มาครั้งนี้ทำเอาคู่แข่งสะเทือนได้เลยทีเดียว
ความสำเร็จของ iPhone มันมีมากกว่าแค่เรื่องเทคโนโลยี มันเรื่องของการวางแผนกลยุทธ์ทางการขายที่เด็ดดวงและเป็นบริษัทที่วางแผนการทำการโฆษณาและการตลาดเทียบได้อย่างซามูไรกระบี่มือหนึ่ง แม้จำไม่ได้ออกทีท่าต่อสู้ถี่ชนิดฟันแหลก แต่ทุกดาบที่ลงไปมีผลต่อคู่ต่อคู่แข่งทุกครั้ง คำที่แฟนๆ หลายคนบอกก็เพราะมันคือ Apple ฉันถึงได้ซื้อมันมีความลึกซึ้งมากกว่าแค่ มือถือเจ๋งๆ ทำอะไรได้หลายอย่างซะแล้ว

stevejobs11

การออกสินค้าของ Apple ต้องบอกว่าไม่ใช่สินค้ารายแรกหรือเป็นสินค้าที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง แต่ความลับคือเป็นสินค้าที่คนอยากใช้ ที่ผ่านมา Apple ไม่ได้เป็นคนผลิตสินค้าออกมาเป็นรายแรกเลยแม้ซักชิ้นเดียว ทั้งที่จริงก็มีศักยภาพพอที่จะทำได้ iPod ไม่ใช่เครื่องเล่น MP3 เครื่องแรกที่ออกมาขายในตลาด ซึ่งตอนนั้นเครื่องเล่น MP3 เป็นสินค้าที่คนสนใจอยากครอบครองมากและหลายๆ บริษัทก็ทำออกมาขายดีเก็บเงินกระเป๋าตุงไปตามๆ กัน แต่หลังเปิดตัว iPod เป็นเครื่องเล่น MP3 ที่คนทั่วโลกอยากซื้อใช้มากที่สุด เพราะมีส่วนช่วยให้ประสบการณ์การใช้เครื่องเล่นเพลง MP3 เปลี่ยนไปอย่าง ขนาดพื้นที่เก็บเพลงมหาศาล และฟีเจอร์ ใช้นิ้วสัมผัสหมุนวงล้อเลือกเพลง การใช้งานที่ง่าย จนใครๆ ก็ต้องทำตาม อย่างเดียวกัน iPhone ก็ไม่ใช่มือถือสมาร์ทโฟนเจ้าแรก iPad ก็ไม่ใช่ Tablet อันแรก iPhone 6 และ 6 plus ไม่ใช่มือถือจอใหญ่เจ้าแรกที่ออกวางขาย แต่กำลังจะเป็นมือถือจอใหญ่ที่คนกำลังอยากใช้มากที่สุด และกำลังขายดีอย่างบ้าคลั่งอยู่ตอนนี้ หลายคนพูดว่างั้น

Apple รู้ตัวดีมาก่อนหน้านี้แล้วล่ะครับว่า มือถือสมาร์ทโฟนของตัวเอง ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มหนึ่งได้เรื่องขนาดหน้าจอที่เล็กไปหน่อย และสูญเสียตลาดบางส่วนในคนที่ต้องการสมาร์ทโฟนไปเลือกมือถือที่จอใหญ่กว่า และก็รู้ดีอีกว่าคนจะไปเลือกซื้อมือถือค่ายซัมซุงที่มีหน้าจอใหญ่กว่า ภายหลังมีการสัมภาษณ์ CEO Apple ทิม คุก ถึงเรื่อง iPhone ทิม คุก ตอบคำถามนึงว่า จริงๆ แล้ว Apple สร้างมือถือจอใหญ่เสร็จตั้งแต่ปีทีแล้วแต่ประเด็นสำคัญไม่ใช่เรื่องมือถือขนาดหน้าจอใหญ่ แต่สำคัญไปกว่านั้นคือการทำมือถือหน้าจอใหญ่ให้ดีกว่าที่มีอยู่ในตลาด นั่นเป็นกลยุทธ์ทางการพัฒนาสินค้าของ Apple สร้างสินค้าที่ดีกว่า ที่คนอื่นทำ แม้ไม่ใช่สินค้าแรก แต่เป็นสินค้าที่คนอยากใช้มัน Apple เฝ้ามองดูตลาดความต้องการของลูกค้ากับประสบการณ์ที่ลูกค้ามีต่อสินค้าในท้องตลาดและเอาตรงนั้นมาสร้างสิ่งที่ดีกว่า วิธีแบบนี้ไม่ใช่ทุกองค์กรจะทำได้ อาจเป็นวิธีที่เหมาะกับ Apple เท่านั้น เพราะความแข็งแรงของชื่อ Apple ที่ทำให้บรรดาสาวกต่างก็ภักดีและเฝ้ารอ เลยทำให้ iPhone 6 และ iPhone 6 จะกลายเป็นมือถือจอใหญ่ที่ขายดีตามความต้องการของลูกค้า และจะขึ้นแท่นมือถือหน้าจอใหญ่ที่ขายดีที่สุดเลยก็เป็นได้ ใครอยากได้จอใหญ่ไปลองดูนะครับ