Niwat Chatawittayakul คอลัมนิส และนักธุรกิจ ปัจจุบันทำธุรกิจด้านวางแผนกลยุทธ์การตลาดและโฆษณาดิจิทัล อีกฝั่งสวมหมวกบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีโดย มุ่งความสนใจไปที่ BigData Blockchain และ Digital Transformation

Digital Media : ยุคใหม่ของ AR เวอร์ชั่นไม่มี Marker สร้างความมหัศจรรย์กว่าเดิม

9 sec read

เทคโนโลยีฉลาดขึ้น จนบางทีก็น่ากลัวเหมือนกันนะครับ ถ้าเคยดูหนังเรื่อง Minority Report เมื่อซัก 10 ปีที่แล้ว เรื่องของสื่อโฆษณาในอนาคตที่เกิดขึ้นในหนัง กำลังเกิดขึ้นในชีวิตเราทุกวันนี้แล้วครับ ถ้าเคยดูจะมีฉากของ BillBoard ที่แสดงโฆษณาที่เราสนใจเมื่อเราเดินผ่าน แถมมันยังรู้จักหน้าค่าตา และชื่อของเราอีกด้วยครับ นั่นเป็นจริงได้แล้วตอนนี้ เพราะว่า เทคโนโลยี มันอ่านความต่างของใบหน้า และจดจำได้แล้ว พูดง่ายๆ มันฉลาดจนจำหน้าคนได้นั่นเอง

ผมกำลังพูดถึง AR หรือ Augmented Reality เทคโนโลยีที่เราได้ยิน และถ้าอ่าน Blog ก็จะเจอผมพูดถึงบ่อย และโดยเฉพาะ สัปดาห์นี้ AR คือการจำลอง สร้างสถานการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งจะเห็นบ่อยๆ กับ Campaign หรือ App ที่จะต้องใช้ตัวกล้อง Webcam + ไอตัว เหลี่ยมๆ สีดำ หรือรูปแบบอื่นๆ ที่ใกล้เคียงซึ่งเรียกว่า Marker ครับ ตัว Marker นั้นเป็นตัวค่าในการอ่านแนวระนาบที่ คุยกับทางตัว Programing ว่าจะระนาบในโลกแห่งความเป็นจริงข้างนอกนั้นเป็นยังไง ซึ่งนั่นทำให้สามารถนำไปใช้สร้างประสบการณ์ได้มากมาย ซึ่งคงไม่ต้องยกตัวอย่างคุณก็น่าจะพอนึกออก

แต่ที่กำลังจะพูดตอนนี้คือ ยุคใหม่ที่ AR จะสามารถสร้างประสบการณ์ได้มากกว่าที่เป็นมาครับ อย่างที่บอก AR มันฉลาดขึ้นกว่าเดิมมาก มันสามารถจำหน้าเราได้ ขนาดใบหน้าเรายังจำได้ ตอนนี้ฉลาดกว่า ขนาดวัตถุ ของต่างๆ ก็ยังจำได้ด้วยครับ

ถึงยุคของ 3D object recognition
ก่อนหน้านี้ AR นั้น นั้นใช้การคุยอ่านค่า โลกจริงกับ Computer ด้วย Marker ซึ่งตรงนี้เป็นข้อจำกัดเดิมคือ อ่านได้เฉพาะลักษณะของความเป็นสิงมิติเท่านั้นครับ เพียงใช้คำนวนระนาบแรกในการอ้างอิง หรือใบหน้าเราเองตัว AR จะอ่านตำแหน่งพื้นฐานของใบหน้า ตา จมูก ปาก ซึ่งทำให้รู้ว่าควรจะเอาแว่นมใส่ให้เราบริเวณไหน ซึ่งเรียกว่า 2D markerless แต่ตอนนี้ ฉลากกว่านั้น AR สามารถจดจำวัตถุได้ในรูปแบบ สามมิติครับ พูดง่ายๆ เลยเมื่อก่อนมันจำเราแต่หน้าตรงได้ แต่ตอนนี้มันจำเราด้านข้าง และด้านหลังด้วย นั่นเองทำให้ประสบการณ์ในการพัฒนา สื่อที่ใช้ AR ฉลาดมากครับ เราสามารถสร้างเกมส์ไปเล่นบนขวดสินค้าได้เลย เราเรียกว่า 3D object recognition

ตอนนี้ AR กำลังข้ามผ่านตัว Marker (markerless recognition)ครับอาจเป็นเรื่องยากที่คนต้อง พิมพ์มันออกมาเป็นพยายามอย่างสูงที่จะรู้ด้วยตัวเองโดยไม่พึ่งใคร ซึ่งสร้างประสบการณ์ได้มากกว่าที่เคยมีของ AR และจะสร้างเครื่องมือช่องทางใหม่ในการทำการตลาดแน่นอน

ช่วงเชื่อมต่อระหว่าง 2D กับ 3D ก็ได้มี Red Bull ทำขึ้นมาครับ

อันนี้จะเป็น 3D object recognition ของจริงที่อยู่ระหว่างเริ่มและจะเยอะขึ้นปีหน้าแน่นอน