Niwat Chatawittayakul คอลัมนิส และนักธุรกิจ ปัจจุบันทำธุรกิจด้านวางแผนกลยุทธ์การตลาดและโฆษณาดิจิทัล อีกฝั่งสวมหมวกบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีโดย มุ่งความสนใจไปที่ BigData Blockchain และ Digital Transformation

เรื่องเล่า ความไม่สมบูรณ์แบบ ที่แสนวิเศษ

5 sec read

มีเรื่องเล่าของนักจิตรกรที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง จอร์โจ วาซารี(Giorgio Vasari) ศิลปินชื่อดังสมัยเรอเนซองซ์ยุคทอง อยากจะพิสูจน์ความสามารถของเขา โดยจิตรกรได้ทำการวาดวงกลมหนึ่งวงด้วยแปรงของเขาไม่มีการใช้เครื่องมือใดๆ ทั้งสิ้นมาเป็นตัวช่วยเพื่อให้ได้วงกลมที่สมบูรณ์แบบ แต่นั่นแหละครับวงกลมของ วาซารี ได้แสดงความเป็นจิตรกรเอกออกมาได้อย่างมหัศจรรย์ สอดแทรกอยู่ในงานของเขาภายใต้วงกลมที่ปิดเบี้ยงและไม่สมบูรณ์

1-AIoyJzBN8DQRInus-DJgnw

ถ้าเราตั้งคำถามให้กับวงกลมที่สมบูรณ์ หลายคนรวมทั้งผมคงบอกว่าวงกลมที่สมบูรณ์ ก็ตอนที่เราเรียนวิชาเรขาคณิต เราจะต้องมีวงเวียนคนละหนึ่งอันเพื่อมาสร้างวงกลมที่สมบูรณ์แบบ เพื่อทำการคำนวนเข้าใจวิชาเรขาคณิตได้ แต่วงกลมที่นักเรียนทุกคนในห้องนั้นวาดออกมาเป็นขนาดที่เท่ากัน ใกล้เคียงกับความสมบูรณ์แบบหรือบางวงสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว แต่วงกลมที่ถูกสร้างนี้กลับกลายเป็นสิ่งน่าเบื่อ กลับมาที่ศิลปินที่สร้างผลงานระดับโลกนั้นวงกลมที่วาดจากแปรงพู่กันที่ไม่มีทางที่จะสมบูรณ์ได้ 100% กลับกลายเป็นความน่าหลงใหล เพราะอะไรกัน

วงกลมที่ไม่สมบูรณ์ทำใมมันถึงงดงามได้ และวงกลมที่มันสมบูรณ์แบบถึงได้น่าเบื่อ นั่นเป็นคำถามที่ถูกตั้งขึ้นและมีการหาคำตอบให้มัน เพื่อให้ได้สูตรของความน่าหลงไหลซึ่งก็เหมือนที่นักวิทยาศาสตร์มาจับหลักความงามจนกลายเป็นสูตร สัดส่วนทองคำ หรืออัตราส่วนทองคำ (Golden Ratio) หรือ ฟี (Phi) ขนาดที่เป็นสูตรในการสร้างผลงานที่ลงตัว

ในหลักของสัดส่วนทองคำก็ถูกนำมาใช้ในหลายอุตสาหกรรมแม้แต่ในวงการศัลยกรรม เราจะเห็นดาราเกาหลีที่ถูกปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนจะได้รูปที่ดีที่สุดแต่สังเกตมั้ยครับเราแยกไม่ออก และคงไม่ได้ชื่อชอบเค้านักหากไม่ได้เห็นเสน่ห์ในมุมอื่นๆ ประกอบการร้อง การเต้นการแต่งกายที่เสริมเสน่ห์เข้าไปให้มีจุดเด่น ซึ่งต่างกับวงการนางแบบ นายแบบชั้นนำระดับโลก อาจจะไม่ใช่คนที่หล่อสวยที่สุดแต่กลับกลายเป็นคนที่น่ามอง น่าชื่นชม บางคนหุ่น Perfect สุดหน้าตาไม่ได้ดีที่สุด ด้วยความที่ไม่สมบูรณ์แบบที่สุดนี่แหละที่ทำให้มันไม่น่าเบื่อและมีเสน่ห์ได้ยาวนานกว่า

จงปรับตัวอยู่กับความไม่ดีพอ

วงการโฆษณาและครีเอทีฟ เรามักติดอยู่กับความไม่ดีพออยู่เสมอ “Not Good Enough” เป็นคำพูดที่ทำให้เราต้องพยายามสร้างสรรค์สิ่งที่ Perfect กว่า และ ก้าวไปข้าวหน้าพัฒนาให้มันสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นจนได้ชิ้นงานที่ Perfect ซึ่งเมื่อเราเข้าสู่ความสมบูรณ์แบบมันมีโอกาสมากที่จะประสบความสำเร็จ ในหลักของการใช้ชีวิตเชิงบวก ในหลักโค้ชเราถูกสอนให้มองสถานการณ์ที่ล้มเหลวหรือความไม่สมบูรณ์ด้วยบอกว่า นั่นคือสถานการณ์ที่เราทำได้ดีที่สุดภายใต้ศักยภาพที่เรา หรือเขามี ณ ช่วงเวลานั้น เพื่อเป็นการบอกว่าข้อจำกัดต่างๆ ณ เวลานั้นทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ออกมา แต่ศักยภาพของบุคคลเราพัฒนาได้อีกไม่จำกัด เพื่อบอกเราว่าการที่เราไม่สมบูรณ์วันนี้เราสมบูรณ์ได้อีกยิ่งขึ้นหากพัฒนาศักยภาพในตัวเอง ในบทความที่เป็นแรงบันดาลใจของเรื่องนี้ นักเขียน Ralph Ammer ก็บอกว่าเรื่องนี้คุณอาจจะมองว่ามันถูกเขียนมาอย่างดี แต่ในความเป็นจริงมันคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้ ถ้าการแข่งขันรถบนเส้นทางคดเคี้ยวความน่าสนใจอยู่ที่การแฉลบออก การลื่นไถลออกนอกเส้นทางบ้างต่างหาก เราแค่ต้องมองไปที่เป้าแล้วพยายามต่อสู้วิ่งสู่เส้นทางที่ Perfect

1-T6DAIYyXehUo55hAjf_Jsw

จริงแล้ว Ralph Ammer เรียนรู้ว่า คนที่เป็นนักจิตรกรมืออาชีพ เสน่ห์ไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบแต่เสน่ห์คือ การเข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบต่างหาก นี่คือเรื่องของความไม่สมบูรณ์แบบ ในแบบที่มีเสน่ห์อย่างสมบูรณ์ แค่อยู่ในเส้นทางพยายามเข้าสู่ความสมบูรณ์แบบต่างหาก พยายามไปอยู่ในจุดที่ความ Perfect ไม่น่าเบื่อให้ได้ เพราะเมื่อเข้าสู่ปลายทางของ Perfestionist มันจะกลายเป็นความน่าเบื่อไปในที่สุด  (ดูรูปด้านล่างนะครับ)

1-bVqJPAyHpzsj_fTdhATSvg

เรียนรู้ที่จะอยู่กับความไม่สมบูรณ์ เพราะความไม่สมบูรณ์มันมีเสน่ห์อย่างไม่น่าเชื่อ

แรงบันดาลใจส่วนหนึ่งของบทความนี้ เรื่องนี้เล่าไม่เหมือนต้นฉบับนะครับ ลองอ่านเวอร์ชั่นของ 
View at Medium.com