Niwat Chatawittayakul คอลัมนิส และนักธุรกิจ ปัจจุบันทำธุรกิจด้านวางแผนกลยุทธ์การตลาดและโฆษณาดิจิทัล อีกฝั่งสวมหมวกบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีโดย มุ่งความสนใจไปที่ BigData Blockchain และ Digital Transformation

5 งานอดิเรกบ้าบิ่น ที่สร้าง Elon Musk ให้ประสบความสำเร็จ

9 sec read

คนที่ได้ชื่อว่า คิดจะพามวลมนุษยชาติไปดาวอังคาร เลยตั้งโครงการ SpaceX ขึ้นมา และพยายามสร้างการขนส่งแบบสุญญากาศที่สามารถพาผู้คนย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้ด้วยความเร็ว 1,220 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง และยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal จนทำให้กลายเป็นคนทรงอิทธิพลอย่างมากในวงการเทคโนโลยี เขามีวิถีชีวิตในวัยเด็กและทำงานอดิเรกอะไรกันถึงได้บ้าบิ่น และสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่มีผลกระทบต่อโลกได้เพียงนี้

ว่ากันว่า ทุกวินาทีในชีวิตเขา คือ ความก้าวหน้าและการผลักดันตัวเองให้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ช่วงชีวิตใช้เวลาว่างในแต่ละวันหมดไปกับการทําอะไรนอกจากเปลี่ยนแปลงโลก มาดูกัน

1.  Musk เป็นหนอนหนังสือตัวยง

เขาใช้เวลาอ่านหนังสือวันละ 10 ชั่วโมงตั้งแต่อายุ 7 ขวบปีต่อมาเขาอ่านหนังสือจนหมดห้องสมุดอ่านแม้กระทั่งสารานุกรมที่มีอยู่ในห้องสมุด และด้วยการอ่านทุกอย่างทีขวางหน้านี้เองทําให้เขามีทัศนคติและเป้าหมายที่แตกต่างจากเด็กหนุ่มทั่วไป บางคนฝันอยากมีรถหรูมีแฟนสวยแต่Elon Muskฝันอยากจะช่วยมนุษย์ชาติให้ดียิ่งขึ้น พ่อและคนใกล้ชิดเคยให้สัมภาษณ์ว่าทุกครั้งที่ไปงานปาร์ตี้หรืองานสังคม Elon Muskมักจะปลีกตัวออกไปอยู่เงียบๆคนเดียวและนั่งอ่านหนังสือในห้องสมุดของเจ้าของบ้านซะมากกว่า

2. Elon Musk คลั่งเทคโนโลยีตั้งแต่เด็ก

เขามีคอมพิวเตอร์เครื่องเเรกเมื่อตอนอายุ 10 ขวบโดยเขาใช้เวลาว่างในแต่ละวัน ต่างจากเด็กส่วนใหญ่ที่ออกไปวิ่งเล่นหรือดูการ์ตูน โดยเขาเอาช่วงเวลานั้นมาฝึกเขียนโปรแกรม BASIC ด้วยตัวเองและด้วยวัย 12 ปี Elon Muskเขาได้เขียนเกมออกมาขายชื่อ Blastar โดยขายทั้งตัวเกมให้กับบริษัทชื่อดังในราคา 500 ดอลล่าสหรัฐ และเป็นเหมือนรากฐานที่ทําให้เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่สําคัญที่สุดในวงการเทคโนโลยีตอนนี้

3. Elon Musk ใช้เวลาในช่วงวัยรุ่นหมดไปกับการฝึกงานตามที่ต่างๆมากพอๆ กับการเรียนหนังสือ

เขารู้ว่าประสบการณ์ทํางานจริงสําคัญที่สุด พ่อของเขาส่งElon Muskไปทํางานแบบที่ต้องใช้แรงงานต่างๆมากมายตั้งแต่เขาอายุ15ปีเพื่อให้เขาได้เรียนรู้ เขาเคยทําแม้แต่พนักงานทําความสะอาดที่ได้ค่าตอบแทนน้อยด้วยซํ้า ตอนอยู่มหาลัยเขาโทรไปหาผู้บริหารธนาคารระดับสูงเพื่อขอฝึกงานและได้รับการตอบรับก่อนจะเปลี่ยนไปฝึกงานที่บริษัทอิเล็กทรอนิกส์และวิดีโอเกมหลังเรียนจบก่อนจะมาเปิดเว็บไซต์ชื่อ Zip2 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการปฎิวัติเทคโนโลยีของโลกในที่สุด

4. Elon Musk มีโครงการยิบย่อยต่างๆมากมายนอกเหนือจากงานที่ Tesla

ซึ่งเป็นงานหลักที่เขาดูแลอยู่ในปัจจุบัน อย่างบริษัทขนส่งทางอวกาศ “สเปซเอ็กซ์” (SpaceX) ซึ่งปลายปี 2015 ที่ผ่านมา บริษัท SpaceX ได้รับสัญญาจ้างเพิ่มมากกว่า 24 ฉบับ และประสบความสำเร็จในการลงจอดยาน SpaceX Falcon 9 บนพื้นน้ำ ซึ่งเป็นจรวดที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด ถึงตอนนี้ มัสก์ยังไม่หยุดไอเดียใหม่ เช่น ไฮเปอร์ลูป (Hyperloop Transportation Technologies) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงที่ผู้โดยสารสามารถเดินทางข้ามรัฐได้ผ่านท่อส่งพิเศษ จุดนี้ในทางทฤษฎี Hyperloop สามารถพาผู้โดยสารเดินทางจากลอสแองเจลิสถึงซานฟรานซิกโกในเวลา 30 นาที แต่ไอเดียนี้ มัสก์เปิดกว้างให้บริษัทอื่นนำแนวคิดไปสร้างได้อย่างเสรี หรือBoring Company ที่เปิดเผยภาพเครือข่ายอุโมงค์ยักษ์ใต้ดินเพื่อการเดินทางด้วยความเร็วสูง โดยจุดนี้มัสก์เปิดเผยเพียงว่าได้บอกเล่าแนวคิดกับรัฐบาลสหรัฐฯแล้ว ว่าหากสามารถขุดอุโมงค์เชื่อมระหว่างนิวยอร์กและวอชิงตัน ดี.ซี. ก็จะสามารถพัฒนา Hyperloop ขึ้นมาเชื่อมในเส้นทางนี้ได้ ทั้งยังมีกลุ่ม OpenAI ที่มัสก์ร่วมก่อตั้งเมื่อปี 2015 กลุ่มนี้เป็นองค์กรไม่หวังผลกำไรที่เน้นสนับสนุนงานวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ เพื่อให้มั่นใจว่าเทคโนโลยีนี้จะไม่ทำลายมนุษยชาติ

5. Elon Muskเรียนรู้ที่จะล้มเหลว

เคยมีคนบอกว่าไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าการประสบความสําเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยแต่คํากล่าวนี้ใช้ไม่ได้กับElon Musk เขาไม่ได้จะประสบความสําเร็จไปทั้งหมดหลายๆครั้งที่ผ่านมาในช่วงชีวิตเขาก็มีวันที่แย่และความผิดผลาดมากมายทั้งเรื่องเล็กน้อยไปจนถึงเรื่องคอขาดบาดตายแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขาละสายตาจากเป้าหมาย อาทิโดนไล่ออกจากบริษัทของตัวเอง ถูกเตะออกจาก Paypal ระหว่างที่กำลังฮันนีมูน แถมยังติดเชื้อมาลาเรียจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เขาก็ไม่เคยยอมแพ้และละทิ้งตัวเองจากเป้าหมายที่วางไว้จึงทําให้วันนี้เราได้เห็นElon Musk ทําสิ่งที่ทุกคนบอกว่าเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ในที่สุดรวมถึงสิ่งอัศจรรย์ต่างๆมากมายที่กําลังจะเกิดขึ้นภายใต้ชื่อของเขา

“ความล้มเหลวมันก็เป็นแค่ทางเลือกหนึ่ง ถ้าคุณไม่ได้ล้มเหลวอะไรเลย แสดงว่าคุณยังไม่ได้สร้างสรรค์อะไรที่มันใหม่มากพอ”
. Elon Musk

สูตรลับ ในความสำเสร็จของ Elon Musk จากสิ่งที่เป็นตัวตนของเขาในอดีต จากหลายๆ ข้อข้างต้น ผมสรุปได้สองอย่าง ที่ผลักดันเขามาถึงทุกวันนี้ อย่างแรกคือ ความคลั่งไคล้ในเทคโนโลยี ที่มีสูงมาก เห็นได้จากวัยเด็กที่ยอมสละเวลาที่เล่นกับเพื่อนเพื่อฝึกเขียนโปรแกรม อย่างที่สองทัศนคติ ของความพยายามและไม่กลัวที่จะล้มเหลว สุดท้ายคือ ความขยัน อันนี้เป็นผลจากความมุ่งมั่นและคลั่งไคล้ในสิ่งที่ตนเองชื่นชอบ เลยผลักดันให้เขาอยากทำสิ่งต่างๆ เหล่านั้นอย่างไม่หยุดนิ่ง

ถือความบ้าบิ่นของการทำสิ่งต่างๆ จนกลายเป็นเขาในวันนี้

ผมนึกถึงคำๆ หนึ่งที่มีคนพูดไว้ เป็นเรื่องของคนส่วนมากที่ไม่ประสบความสำเร็จ ว่า “คนส่วนมากมีแต่ความอยากเก่ง อยากรวย แต่พวกเขาขาดอย่างเดียว คือ ความพยายาม และอดทน” เราคงต้องเตือนตัวเองให้พยายามสร้าง ความพยายามให้มากขึ้น อดทนกับบางสิ่งให้สูงขึ้นแล้วความสำเร็จก็คงจะตามมาได้เอง

แด่ทุกคนที่มีความพยายาม และตั้งใจจะสำเร็จครับ