Niwat Chatawittayakul คอลัมนิส และนักธุรกิจ ปัจจุบันทำธุรกิจด้านวางแผนกลยุทธ์การตลาดและโฆษณาดิจิทัล อีกฝั่งสวมหมวกบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีโดย มุ่งความสนใจไปที่ BigData Blockchain และ Digital Transformation

GEN Z วัฒนธรรมเด็กมหาลัยยุคนี้ ส่งต่อผ่าน YouTube กรณีศึกษา Cover Video “Call Me Maybe”

7 sec read

เมื่อก่อนทีวีมีอิทธิพลต่อคนทุกวัย รายการวัยรุ่น เป็นแหล่งก็ส่งแนวคิด ความคิด ที่มีอิทธิพลที่สุด 12 ปีผ่านไป นับตั้งแต่ยุค ดอท คอม วัฒนธรรมวัยรุ่นเด็กที่เกิดมาพร้อม WWW Internet หลายคนเรียก Gen Z หรือ Gen C หรือ Gen Z Generation Z เด็กที่เกิดมาก็เจออินเตอร์เน็ต (เด็กรุ่นใหม่ เกิดในช่วงกลางทศวรรตที่ 1990s)

สื่ออิทธิพลวัยรุ่นเปลี่ยนเป็น Social Media กลายเป็นช่องทางที่มีมีอิทธิพล นับตั้งแต่ MySpace Hi5 ซึ่งชัดเจนที่สุด MySpace ส่งผลต่อวัฒนธรรมวัยรุ่น ชาวมะกัน ส่วน Hi5 ส่งผลต่อวัฒนธรรมวัยรุ่น เสปน และไทยอย่างชัดเจน

blank

เหมือนที่บอกครับเด็กสมัยนี้ Social Media มีอิทธิพลกว่าโทรทัศน์ มากเมื่อไม่นานมานี้มี เคสน่ารักๆ ของวัยรุ่นมะกัน เมื่อทีมเบสบอลของมหาลัย ฮาวาร์ด ทำคลิป Cover เพลง Call Me Maybe ของ Carly Rae Jepsen ซึ่งดังจนทะลุ 120 ล้านไปไม่นานนี้มาแรงมาก ความน่าสนใจอยู่ที่เมื่อคลิปไวรัล ของ นักเบสบอล ฮาวาร์ด ซึ่ง Cover เพลงนี้ดังและถูกกระจายออกไป กลายเป็น ไวรัลที่ถูกพูดถึงในบรรดาวัยรุ่น กลายเป็นเรื่องฮ๊อตและมีอิทธิพลต่อวัยรุ่นมหาลัยอื่นๆ ทำคลิปแนวเดียวกันออกมา ซึ่งก็เป็น ไวรัล เหมือนการประชัน Cover ระหว่างมหาลัยเกิดขึ้น จากแค่ Havards ไปยังมหาลัย เอเธน , และอีกหลายมหาลัย รวมแล้วคนดูวิดีโอเหล่านี้ไปกว่า 20 ล้านครั้ง Cover และนำเสนอในรูปแบบคล้ายกัน ลองชมวิดีโอ Playlist 10 วิดีโอ Viral ขอแต่ละมหาลัย อิทธิพลของเด็กรุ่นใหม่ไม่ใช่ทีวี กลายเป็นเรื่องจริง

ต้นฉบับ วัฒนธรรม ฮาวาร์ด

เมื่อวัฒนธรรมถูกแพร่ ไปอีก 10 (YouTube Playlist)