Niwat Chatawittayakul คอลัมนิส และนักธุรกิจ ปัจจุบันทำธุรกิจด้านวางแผนกลยุทธ์การตลาดและโฆษณาดิจิทัล อีกฝั่งสวมหมวกบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีโดย มุ่งความสนใจไปที่ BigData Blockchain และ Digital Transformation

Facebook เปลี่ยนพฤติกรรมการเข้าเว็บไซต์ทั่วโลก SEO ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของการปั้นเว็บให้ดัง

10 sec read

อะไรๆ ก็ Google อยากรู้อะไรถาม Google ค้นหาข้อมูลเพื่อหาเว็บที่มีเนื้อหาที่ต้องการ จากเว็บนับล้านล้านทั่วโลก กลายเป็นพฤติกรรมของคนออนไลน์ต้องการอะไรต้องนึกถึง Google ทำให้บรรดาเว็บไซต์ต่างก็คาดหวังอยากให้เว็บไซต์ของตัวเองนั้นแสดงผลอยู่ในอันดับสูงสุดของ Google เมื่อผู้ใช้ค้นหาคำที่เกี่ยวข้องซึ่งจะนำผู้ใช้จำนวนมากมายเข้ามาใช้งานเว็บไซต์แม้เว็บไซต์จะไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมากก็ตาม การทำการตลาดบนการค้นหา SEM จึงเริ่มประทุขึ้นยิ่งคนเข้าเว็บมากโอกาสต่อยอดธุรกิจ เม็ดเงินโฆษณาก็สูงขึ้นตาม

แต่ที่ว่านั่นมันยุคก่อน วันนี้ความสำคัญของการทำ SEM อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของการหาลูกค้า มีช่องทางอื่นๆ ทางเลือกใหม่ๆ มากมายเกิดขึ้นอยากทำการตลาดโฆษณากับกลุ่มคนที่เป็นมืออาชีพ สามารถเข้าไปทำการตลาดผ่าน Likedin หรืออยากทำการตลาดจับกลุ่มสาวผู้รักแฟชั่น Pinterest ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ อยากทำการตลาดในท้องถิ่น แอพบริการกลุ่ม Location Based Services ก็เป็นทางเลือกที่คุ้มค่า ช่องทางใหม่ๆ เหล่านี้สามารถทำการตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนได้ตรงกลุ่ม และที่สำคัญยังเป็นพื้นที่ น่านน้ำสีน้ำเงิน การแข่งขันไม่สูง แม้จะมีทางเลือกใหม่แต่ SEM ก็ยังเป็นการตลาดที่ยังคงต้องทำตราบใดที่คนยังไม่เลิกค้นหา Google และเว็บไซต์ยังไม่ตาย

facebook-google-buzzfeed-referral-traffic

ความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเกิดขึ้นหลังจากที่ Facebook ปรับการแสดงผล Feed ให้ความสำคัญกับ Content WEb ที่มีแนวโน้มได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วให้แสดงผลในหน้า Feed เพิ่มขึ้น ตามที่เราเริ่มเห็นมาตั้งแต่ปีที่แล้วกระทู้ฮ๊อต Dek-D หรือ Pantip กระทู้แนะนำ ไม่นับรวมเรื่อง Video ที่ปีนี้ Faceook ให้ความสำคัญการแสดงผล วิดีโอมากขึ้น ช่วยเรื่องเนื้อหาที่เป็นวิดีโอให้เนื้อหอม ตัวเลขที่บ่งบอกถึงความเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลได้ชัดจากกราฟนี้ เป็นข้อมูล ผู้เข้าชมของ Website Buzzfeed เว็บเจ้าพ่อ Viral และ Clickbait จากกราฟแสดงตัวเลข Referrals Visiter หลักที่พาคนเข้ามาในเว็บไซต์ นับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา การเข้ามาผ่านการค้นหา Google นั้นลดลงและ Facebook เป็นช่องทางที่ดีในการผู้คนเข้ามา และสูงขึ้นปลายปี 2013 อย่างมีนัยยะสำคัญ

ย้อนไปในปีที่ผ่านมาจะมีเว็บไซต์ประเภท Clickbait ล่อคนคลิกเข้าไปในเว็บไซต์ ด้วยการจั่วหัวกระตุ้นการอยากรู้ เหตุผลหนึ่งเพราะ Facebook สนับสนุนให้ Content กระจายวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว และสร้างทราฟฟิกได้ดีมากกว่าเทคนิคด้าน SEO

Facebook ที่สามารถสร้างทราฟฟิกเข้าเว็บได้อย่างมากและรวดเร็ว กำลังเป็นโอกาสที่ดีของการทำการตลาดด้วยเนื้อหา ที่ต้องวางแผนเนื้อหา วัดดวงกับการสร้างเนื้อหาที่โดนใจ ในการทำการตลาด เป็นโอากาสที่ดีของแบรนด์ที่การสร้างฐานแฟน ใน Social Media ของตัวเองเป็นตัวจุดพลุพาคนเข้าไปในเว็บไซต์ได้ ด้วยกลยุทธ์ด้านเนื้อหาที่ต้องวางแผนใช้ประโยชน์จาก Social Media และพฤติกรรมคนที่สนใจคลิกอ่านข่าวที่เป็นกระแส แนะนำโดยคนรู้จักมากกว่าการเข้าไปนั่งไล่อ่านข่าวในเว็บข่าวเพื่อหาข่าวที่ตัวเองสนใจ และเวลาการ Surf Internet เข้าเว็บที่มีเท่าเดิม และอยู่ในช่วงถดถอยสูญเสียเวลาให้กับ Social Media / Social Messager ทำให้การดึงคนเข้าเว็บแบบเดิมไม่เพียงพอสำหรับเว็บสื่อ

ด้วยกลยุทธ์การตลาดด้วยเนื้อหาต้องวางแผนใช้ประโยชน์จาก Social Media และพฤติกรรมคนที่สนใจคลิกอ่านข่าวที่เป็นกระแส แนะนำโดยคนรู้จักมากกว่าการเข้าไปนั่งไล่อ่านข่าวในเว็บข่าวเพื่อหาข่าวที่ตัวเองสนใจ

ข้อมูลนี้เหล่านี้บอกอะไรเรา

แม้ว่าจะเป็นโอกาสที่สร้างทราฟฟืกที่ดีให้กับเว็บไซต์ แต่การคลิกจาก Facebook นั้นไม่สามารถบ่งบอกคุณภาพของ การคลิกได้ ผู้ชมที่คลิกมาอาจไม่ใช้กลุ่มเป้าหมายหรือฐานลูกค้ากลุ่มสำคัญให้กับแบรนด์ แต่เป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจสื่อที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสตรงนี้ได้มากกว่าเพิ่มมูลค่าของการโฆษณา และ ผู้เข้าชมที่มาจาก SEO จะกลายเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นสำหรับแบรนด์ การวางกลยุทธ์เลยต้องมาคำนึงถึง Quality ของทราฟฟิกและวัตถุประสงค์ เป็นสำคัญ