Niwat Chatawittayakul คอลัมนิส และนักธุรกิจ ปัจจุบันทำธุรกิจด้านวางแผนกลยุทธ์การตลาดและโฆษณาดิจิทัล อีกฝั่งสวมหมวกบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีโดย มุ่งความสนใจไปที่ BigData Blockchain และ Digital Transformation

Digital Marketing : หน้าตัวอย่างสำหรับธุรกิจ (Brand Page) บน Social Media Google+

10 sec read

ส่วนหนึ่งของการสร้างรายได้อย่างเป็นกอปรเป็นกำของ ผู้ให้บริการ Social Media นอกจากรายได้จากโฆษณา ซึ่งถือเป็นรายได้หลักแต่จะไม่มีใครจะอยากนำเงินจำนวนมหาศาลมาลงทุนกับการโฆษณาเลย หากแบรนด์และสินค้าไม่เห็นผลประโยชน์ นั่นจึงทำให้ การมีแบรนด์แสดงตัวตนอยู่บน Social Media เป็นช่องทางสำคัญที่มีมูลค่าสูงและเหมาะกับยุคสมัยของการตลาดที่เปลี่ยนไป Facebook ประสบความสำเร็จกับการสร้างหน้า เพจของธุรกิจบน platform Social Media ซึ่งนั่นกลายเป็นช่องทางการตลาดใหม่ที่แบรนด์เข้าไปสื่อสารและวัดตัวเลขการประสบความสำเร็จของธุรกิจด้วยยอดของคนที่ Like Fanpage ของแบรนด์นั้นๆ

ปรากฏการณ์ผู้ใช้ Social Media หน้าใหม่อย่าง Google+ ที่สามารถสร้างฐานผู้ใช้เติบโตได้สูงสุดและเร็วที่สุด 20 ล้านคน ด้วยระยะเวลาเพียง 24 วัน อ่านบล็อกเก่า เป็นแนวโน้มที่น่าสนใจด้วยอัตราการเติบโตสูงสุดในบรรดา Social Media ทุกเจ้าบนโลก นั่นทำให้นักการตลาดมองเห็นถึงโอกาสและแนวโน้มที่เห็นได้ชัด ว่ายังไงแบรนด์ก็ต้องเข้าไปสร้างตัวตนบน Social Media แห่งใหม่แห่งนี้เช่นกัน

blank

โมเดลการสร้างหน้า Profile สำหรับแบรนด์จึงเป็น A must ที่ต้องมีสำหรับ Google+ และแน่นอนก็เป็นสิ่งที่นักการตลาดอย่างเราๆ ก็กำลังเฝ้าคอยกันอยู่

Concept สำหรับหน้า Profile ของแบรนด์ ที่มีการคาดเดาหน้าตาที่จะออกมาและก็มี การทำ Design หน้าตาคร่าวๆ ของแบรนด์เพจของ Google+ ซึ่งหน้าตาละม้ายคล้าย Facebook มากทีเดียว โดยหน้าตาและ Feature จะมีส่วนประกอบประมาณนี้

blank

1. มีการ Google +1 อยู่เสมือนการแสดงความชื่อนชอบกับแบรนด์นั้นๆ คล้ายปุ่ม Like
2. มี Verification การยืนยันตัวตนของแบรนด์
3. มี Google Map บอกตำแหน่งพิกัดของสถานที่ตั้งของแบรนด์นั้นๆ ซึ่งรวมถึง ร้านและสาขาต่างๆ ที่ตั้งอยู่ทั่วโลกของแบรนด์
4. Canvas พื้นที่สำหรับแสดงข้อมูลตำแหน่งตรงกลางเพื่อให้แบรนด์สามารถแสดงข้อมูลต่างๆ ได้นอกเหนือจาก ข้อจำกัดของระบบเช่นเดียวกับ FBML หรือ Facebook Canvas ครับ
5. Spark เป็นอีกส่วนสำคัญที่จะทำให้ความเป็น Social Media แข็งแกร่งขึ้นด้วยการดึงลักษณะการจัดการเนื้อ Content Curation ที่จะสามารถดูข่าว หรือหัวข้อที่ทุกคนพูดถึงใน Topic นั้นๆ ได้แน่นอนว่า ชื่อ แบรนด์จะกลายเป็นท๊อปปิกสำคัญและช่วยให้แฟนๆ ติดตามได้ง่ายครับ
6. Link / Circle และ ส่วนของผู้ดูแล BrandManagers

ซึ่งถ้าการคาดการนี้เป็นจริง เท่านี้ก็จะทำให้การทำการตลาดผ่าน Social Network Google+ ดูน่าสนใจมากๆ ครับ และแน่นอนว่าเม็ดเงินมหาศาลทีเดียว ที่มาของภาพและส่วนหนึ่งของเนื้อหาจาก seanpercival