ถ้าใครตามทวิตเตอร์ผมอยู่ก็จะรู้ว่าช่วงนี้ผมค่อนข้างปลื้มกับมือถือเครื่องนึงมากเป็นพิเศษ เนื่องจากผมได้เบื่อความเกร่อของคนถือ iPhone และอยากเปลี่ยนอะไรใหม่ๆ มาสร้างสีสันต์ไลฟสไตล์ตัวเองบ้าง เลยยกเครื่อง iPhone ไปให้กับเพื่อนและเปลี่ยนใจมาใช้ LG Prada แทนซึ่งกลายเป็นมือถือที่ชอบใจมากเป็นพิเศษตอนนี้ เมื่อปลื้มแล้วก็ขอรีวิวความพิเศษของมือถือเครื่องนี้ ในฐานะผู้ใช้ตัวจริงคนหนึ่งละกันครับ
ภายนอกเครื่อง
ภาพลักษณ์เครื่อง LG Prada ตัวนี้ขึ้นชื่อเรื่องความเรียบหรู ภายใต้แบรนด์ Prada อยู่แล้วครับ ซึ่งตัวมือถือที่ออกมาก็ต้องสื่อความหรูของแบรนด์ออกมาด้วยครับ หากใครได้ไปเจอตัวเป็นๆ อยากให้ไปลองสัมผัสดู สิ่งแรกเลยครับคือฝาหลังที่ทำมาให้ความรู้สึกเสมือนหนังกระเป๋าสัมผัสฝาหลังจะได้ความรู้สึกเหมือนได้สัมผัสกระเป๋า Prada จริงๆ อันนี้คือความรู้สึกที่ชอบมากๆ เพราะได้ความรู้สึกนั้นทุกึรั้งที่ถือและไม่อยากหาเคสหรือซองมาใส่
ตัวเครื่องบางและเบา โดยภาพลักษณ์
ความหนา และน้ำหนักเมื่อเทียบกับเครื่อง iPhone แน่นอนว่าเบากว่าและบาง แม้จะใส่เคสแล้วก็ตาม เทียบกับ iphone ที่ใส่เคสก็ยังบางกว่าอยู่ดี แต่คงไม่คิดจะใส่เคสแน่นอนตามเหตุผลก่อนหน้านี้
ความเร็วการใช้งาน
กล้อง 8 ล้านเป็นสิ่งที่ทำให้ตัดสินใจไม่ยากเพราะความต้องการ เสป็กเครื่องของไม่พูดในตรงนี้แต่เรื่องความเครื่องนี้สูงมากสมราคาครับ เข้าไปอ่าน Spec ได้ที่นี่ครับ http://www.pradaphonebylg3.com/
ตัว Android ที่หรูมากกว่า
ต้องยอมรับว่าช่วงแรกๆ ผมค่อนข้างมีปัญหากับการหาตัวเมนูของ Adnroid อยู่บ้างเนื่องจาก iCon Design ของ LG Prada ตัวนี้เป็น iCon ที่ถูกออกแบบมาอย่างพิเศษเพื่อให้ดูหรู คลาสสิค ซึ่ง Prada เข้ามาร่วมออกแบบหน้าตาการใช้งานในเครื่องนี้ ตัว iCon เป็นสีขาวดำและภาพหน้าตาการใช้งานเป็นสีขาวดำทั้งหมด เพราะฉะนั้นถ้าคุ้นชินกับ เมนู Android เดิมๆ ทั่วๆไป อาจจะงงเล็กน้อยเพราะเราติดภาพของสีของ iCon และจำได้จากตรงนั้น แต่เมื่อเป็นขาวดำจะหาลำบากอยู่ซักหน่อย แต่เมื่อใช้ไปซักพักจะคุ้นชินกับเมนูเองและรู้สึกดีกับการ Design แบบนี้เพราะมันทำให้มือถือมันมีเอกลักษณ์เฉพาะและหรูขึ้นครับ
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมค่อนข้างถูกใจเครื่องนี้มากเป็นพิเศษขอวิเคราะห์ ตาม Insight นี้นะครับ การถือมือถือเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับคนถือนั้น IPhone ไม่สามารถตอบโจทย์นั้นได้แล้วเมื่อ Apple ลงสู่ตลาดแมสที่แม้แต่เด็กมัธยมยังถือใช้เพราะฉะนั้นภาพลักษณ์ของการตอบโจทย์ด้านภาพลักษณ์นั้นลดลง ตลาด Premium Mass หรือเรียกชื่ออื่นอย่าง Masstige (อ่านอธิบายเพิ่มเติม) เป็นกลุ่มที่ผมยืน เป็นกลุ่มเป้าหมาย คือกลุ่มคนที่ต้องการสินค้าที่ใช้แล้วส่งผลต่อภาพลักษณ์ต่อผู้ใช้แต่คนกลุ่มนี้จะมองการตัดสินใจซื้ออยู่สองมุมก็คือ Emotional ร่วมกันกับ rational อารมณ์และความคุ้มค่า ยอมจ่ายในราคาสูง แต่ก็มีขีดจำกัดของราคาที่สามารถจ่ายไหว และคุ้มค่า ต้องบอกว่าถ้าอยากจะลองหา มือถือที่เสป็กการใช้งานดีเยี่ยม และเสริมเรื่องภาพลักษณ์
