เมื่อตอนพูดงานสัมนา กับทางเนชั่นเมื่อตอนต้นปีวิทยากรทุกคนพูดไปในทิศทางเดียวกันครับ คือพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดคือเรื่อง Screen ที่มีบทบาทมากกับผู้บริโภคยุคนี้ ด้วยพฤติกรรมการใช้อุปกรณ์ ดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นไปทั้งโอกาสและวิกฤตของวงการสื่อสารการตลาด เพราะมันหมายถึง โอกาสที่ผู้บริโภคจะไม่ได้รับข้อมูลจากพฤติกรรมการใช้หลายสกรีน การสื่อสารจะส่งไปไม่ถึงหากสื่อสารแค่ช่องทางเดียว แต่นัยนึงก็คือโอกาศของการสื่อสารเพราะมีช่องทางในการรับรู้และเข้าถึงเพิ่มมากขึ้น เมื่อก่อน YouTube ก็เป็นแค่ที่อัพโหลดวิดีโอไว้ แต่ก็พัฒนามาเป็นช่องทางรับชมการถ่ายทอดสดที่คนทั่วโลกสามารถรับชมได้พร้อมกันฟรีๆ โดยไม่ต้องรอการซื้อลิขสิทธิ์หรือรอเวลาการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ ในช่วงที่มีช่องว่างให้ออกอากาศได้เท่านั้นครับ แต่กลับเป็นการเพิ่มการรับรู้ เพิ่มช่องทางรับชม จากการรับชมเพียงแค่เฉพาะในประเทศ ขยายเป็นการรับชมของคนทั่วโลก ลองนึกภาพว่าสูงสุดที่คนจะดูรายการถ่ายทอดสดพร้อมกันได้มากแค่ไหน และนี่เองก็ช่วยเพิ่มมูลค่าของสื่อและการโฆษณาได้อย่างมหาศาลในเวลาเดียวกัน
ความสำคัญของ Multi-Screen ไม่ใช่เรื่องของจอหลายขนาดและมีบทบาทมากกับผู้บริโภคยุคใหม่ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปพวกเขามีช่องทางรับรู้รับชมหลายช่องทางไม่ต้องง้อช่องทางใดช่องทางนึง ใช้โทรศัพท์ไปพร้อมกับดูโทรทัศน์ ใช้ Laptop ไปพร้อมกับมือถือ เอามือถือ แท็ปเล็ตไปทุกที่ทำอะไรหลายๆ อย่างหรืออย่างเดียวกับได้ทุกๆ เหน้าจอทุกที่ทุกเวลา นั่นทำให้เทรนด์ดิจิทัล บริการต่างๆ พยายามขยายช่องทางการใช้งานเพื่อตอบโจทย์ วิถีชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ยกตัวอย่าง TrueVision ที่ออกบริการ “TrueVision Anywhere” ดูรายการคุณภาพจากทรูกว่า 120 ช่อง ซึ่งรองรับทั้ง iOS, Android และคลอบคลุมไปถึง Web Platform ทำให้เราฐานะของผู้ใช้ ดูช่องรายการของทรูช่องใดก็ได้โดยไม่ต้องอยู่แค่ที่บ้าน ที่ที่มีกล่องรับสัญญาณเท่านั้น ตอบโจทย์ชีวิตคนสมัยใหม่อย่างผมที่ไม่ได้มีทีวีเป็นส่วนสำคัญของชีวิต ดูทีวีน้อยมากกว่าอยู่บน Computer มือถือ และ Tablet ผมว่าไม่เฉพาะผมหลายคนก็เป็นแหละครับ
Application ของ ทรูทำได้ดีมากครับ อันนี้ต้องขอชมและต้องบอกว่าเป็นฝีมือคนไทยกันล้วนๆ ในเรื่องหน้าตาการทำงานที่เรียบง่าย เน้น UserInterface แบบ Simple and Clean เมนูการใช้งานก็ซ่อนอยู่
เรื่องความเร็ว ความคมชัดของภาพ หลังจากที่ลองใช้มาระยะนึงระบบฉลาดมากครับ Application จะคำนวนตามความเร็วของ Internet ครับเรียกว่ารองรับได้ทุกความเร็วครับ เพราะว่ามันเป็น Application ความเร็วเลยขึ้นอยู่กับเครือข่ายและพื้นที่ เมื่อไรก็ตามที่ความเร็วตกลงอย่างถ้าลงไปเป็น Edge เมื่อไหร่ภาพจะไม่มีครับ แต่มีเสียงส่งมาเท่านั้น หากมีความเร็วพอจะรับภาพได้ก็จะได้รับชมภาพใน Quality แบบ Low และหากความเร็วอินเตอร์เน็ตเร็วขึ้นมาก ก็จะ Swtich ภาพไปเป็นแบบ High ซึ่งชัดมากครับ วิถีการดูคุณภาพของภาพ จะมีสัญลักษณ์ที่ด้านล่างขวาของจอ บอกระดับคุณภาพของภาพที่รับชมอยู่ขณะนั้นครับ
1 account หลายช่องทางรับชม เท่ากับว่าถ้าเรามีมือถือ และ iPad ก็ดูได้ทั้งคู่จากรหัสสมาชิกอันเดียวกัน แต่ Application จะกันไว้ครับ 1 ID จะดูได้ 1 ช่องทางเท่านั้น แต่ดูช่องทางไหนก็ได้ พูดง่ายๆ ก็คือ จะเปิดดูพร้อมกันทุกช่องทาง มือถือ แท็บเล็ต เว็บ ผ่าน Account เดียวไม่ได้ครับ จะได้แค่ทีละ 1 ช่องทาง (1 Concurrent User) ช่องทางที่เปิดดูเป็นอันแรกจะรับชมได้ แต่อันหลังจะมีข้อความขึ้นมาครับ “ไม่สามารถรับชมช่องรายการได้ชั่วคราว”
ข้อดีของ Truevion Version แอพ มีหลายอย่างเลยครับ อย่างแรกเราสามารถดูรายการย้อนหลังได้ 2 ชั่วโมง (Time Shift) กรณีพลาดรายการไปแล้ว หากยังไม่เกินสองชั่วโมงก็สามารถย้อนกลับไปดูตอนต้นได้เลย ผมว่าคนที่ชอบดูช่องหนังน่าจะชอบนะครับ บางทีมาเปิดดูทีวีก็เจอเอากลางเรื่องซะแล้ว หรือรายการโปรดก็เถอะ มี Time Schedule ดูรายการล่วงหน้าได้ 7 วัน
อีกอย่างหนึ่งที่ทรูเพิ่มเข้ามาซึ่งคิดว่าดีกับคนไทยเลยคือบริการ On Demand เราสามารถสั่งซื้อภาพยนตร์คุณภาพได้และชมผ่าน Application ได้ทันทีครับ ซึ่งผมชอบที่ ถ้าเราซื้อผ่านทรู เราก็จะได้ภาคไทยหรือ Sub. Thai ด้วยซึ่งเป็นอะไรที่ iTune Store, Play Store ไม่มีให้เรา ราคาก็ขึ้นอยู่กับเรื่องครับตอนนี้ยังไม่เป็นมีลิสขึ้นมาคิดว่าคงอยู่ระหว่างทดสอบอยู่ แต่ใครอยากลองมีหนังรายการฟุตบอลที่ทรูซื้อลิขสิทธิ์มาแล้ว (เข้าใจว่าอย่างนั้นครับ) มาให้ดูฟรีๆ
ภาพรวมใช้ Application “True Anywhere” ชอบมากครับ Application ใช้งานง่ายและเรื่องความเร็วของการ Streaming ถือว่าทำได้ดีไม่สะดุด อยากลองดาวโหลดมาใช้หรือสมัคร ดูรายละเอียดที่เว็บตามลิ้งได้เลยครับ https://anywhere.truevisions.tv/player/play