Up in the Air ว่าด้วยเรื่องความเชื่อเรื่อง ความสัมพันธ์ และคนหลงทาง
เพิ่งได้ชมหนังเรื่องนี้ ก็ตอนที่ออกเป็น DVD ออกมาแล้ว ตอนแรกคิดว่าเป็นหนังรักที่น่าจะ Happy เมื่อดูจบแต่กลับเป็นหนังที่เปิดประเด็นมุมมองใหม่ให้กับคนดู สะกิดแง่คิดเล็กๆ ของพวกเรา หนังดีอีกเรื่องจากผู้กำกับมือดี เจสัน ไรต์แมน ผู้กำกับหนัง Juno ที่ติดใจใครหลายคน ผู้เคยเข้าชิงออสก้า
ประเด็นหนังเรื่องนี้ น่าสนใจ เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง การเปิดมุมมองให้เราเห็นคล้อยตามพระเอก ไรอัน บิงแฮม (จอร์จ คลูนี่ย์) ว่าทฤษฎี ความสัมพันธ์ แบบไม่มีพันธะนั้น เป็นอะไรที่ช่วยให้ชีวิตนั้นสบายขึ้น แต่เมื่อถึงครึ่งกลางเรื่อง พระเอกก็ตระหนักได้ว่า อยากจะมีความสัมพันธ์แบบจริงจัง แต่เมื่อความจริงเป็นสิ่งโหดร้าย ความสัมพันธ์ที่คิดว่าจะจริงจังกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เรื่องนี้ผูกความไม่แน่นอนต่างๆ ในชีวิตกับความสัมพันธ์ที่ออกมาในหลายๆ รูปแบบ เพื่อน ครอบครัว ชู้รัก เจ้านาย ลูกน้อง พนักงาน คู่รัก คู่มั่น แม้แต่เศรษฐกิจ หนังเล่าถึงความโหดร้าย จากความสัมพันธ์ที่ไม่แน่นอนต่างๆ เหล่านี้ คนถูกไล่ออกฆ่าตัวตาย คนที่ภักดีต่อบริษัทมา 10 ปีต้องถูกลอยแพ คนรักที่ทิ้งไป ผู้หญิงที่แอบไปมีชู้ แต่นั่นคือสิ่งที่หนังพยายามเล่าและสอดแทรกไปในบทที่ถูกเขียนมาอย่าง แยบคาย สุดท้ายทุกคนก็คือนักเดินทางในโลกแห่งความเป็นจริง ชีวิตจริง อยู่ที่ว่าเมื่อเราหลงทางแล้ว จะกลับมาเดินทางเส้นทางที่ตั้งใจได้เมื่อไหร่ ช้าหรือเร็ว ทุกคนย่อมเคยหลงทาง
ชอบบทหนังที่แทรกมุขตลก และแม้จะไม่ดึงอารมณ์เราให้พีค แต่ก็ทำให้เราฉุกคิดอะไรบางอย่าง นี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นทุกวันในโลกทุนนิยม ทุกตัวละครเติบโตและเรียนรู้ เหมือนการเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ แบบพระเอกแต่ครั้งนี้มีเป้าหมายและเติบโตกว่าเดิม หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่นิตยสาร Time ยกย่องให้เป็นหนึ่งในหนังดีที่สุดแห่งปี
หนังเรื่องนี้มีโฆษณา อยู่ 2 อย่างคือ โรงแรมฮิวตั้น และสายการบิน American Airline ที่เห็นอยู่ตลอดทั้งเรื่องเป็นช่วงๆ ลองชมกันครับแนะนำอีกเรื่อง หนังที่ดีดีเดี๋ยวนี้ตัวละครน้อย ฉากไม่เยอะเล่าเรื่องตรงประเด็นเขียนบทคมๆ แค่นี้ก็กวาดรางวัลได้แล้วไม่ต้องทุนเยอะ ลองลิ้มรสดู มีน้ำยิ้มเป็น Trailer ให้ดูครับ
