Niwat Chatawittayakul คอลัมนิส และนักธุรกิจ ปัจจุบันทำธุรกิจด้านวางแผนกลยุทธ์การตลาดและโฆษณาดิจิทัล อีกฝั่งสวมหมวกบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีโดย มุ่งความสนใจไปที่ BigData Blockchain และ Digital Transformation

ตกงานกันชัวร์ ยุคหุ่นยนต์มาแล้ว

0 sec read

มนุษย์กำลังถูกถ้าทาย ด้วยสิ่งที่ฉลาดกว่า เรียนรู้ได้ไวกว่า สามารถทำอะไรได้มากกว่า มีความอดทนและทำงานได้เป็นระยะเวลาที่ยาวนานกว่า ถ้ามนุษย์ไม่สามารถพัฒนาตัวเองให้เทียบเท่าได้เราจะถูกแทนที่ ผมกำลังพูดถึงยุคใหม่ของอนาคตที่กำลังคนทำงาน มนุษย์เงินเดือนแบบเราๆ กำลังจะถูกแย่งงานไปจำนวนมหาศาลด้วยเครื่องจักร จริงอยู่ครับว่าสิ่งเหล่านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วตอนเข้าสู่สมัยอุตสาหกรรม แรงงานในชนชั้นแรงงานถูกทดแทนด้วยเครื่องจักรจำนวนมากด้วยความสามารถที่สร้างสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำงานได้รวดเร็วกว่ามนุษย์หลายเท่า นี่ยังไม่นับรวมความแม่นยำในการทำงาน ปราศจากอารมณ์และความเหนื่อยล้าเหมือนมนุษย์

แต่ในก้าวใหม่ของโลกอนาคตกำลังไปไกลกว่านั้น ทุกวันนี้เราเห็น Siri สามารถตอบสนองคำสั่งการทำงานได้ง่ายๆ ด้วยการถามไม่ต้องมานั่งพิมพ์คำถามป้อนเข้าไป อนาคตของเทคโนโลยีเราสามารถสั่งงานได้โดยที่ไม่ต้องมานั่งอยู่หน้าจอ กดแป้นพิมพ์ เราแค่สั่งเหมือนที่เราสั่งสินค้า สั่งลูกน้อง สั่งผู้ให้บริการให้ทำงานแค่นั้นเองครับ ที่เหลือเป็นหน้าที่ของคอมพิวเตอร์ที่จะทำสิ่งที่เราต้องการมาให้

image4

ในภาพยนตร์ดังหลายเรื่องถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอนาคตล้ำๆ ด้วยแล้วเราจะเห็นหุ่นยนต์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตยุคอนาคต ถ้าเห็นบ่อยๆ หุ่นยนต์ถูกนำไปใช้กับการทำสงคราม ต่อสู่กันด้วยทหารหุ่นยนต์ หรือหุ่นยนต์ที่เข้ามาทำหน้าที่ต่างๆ แทนมนุษย์ในงานที่มนุษย์ไม่อยากทำเก็บขยะ รับใช้มนุษย์ให้ความสะดวกสบายซึ่งถ้ามองในมุมของเราใครๆ ก็อยากได้คนมาช่วยสร้างความสะดวกสบายให้ชีวิตอยู่แล้วครับ แต่สิ่งที่หน้ากลัวถัดมาคือ หุ่นยนต์ กำลังคืบคลายมาแย่งพื้นที่งานของมนุษย์ในอนาคต นั่นเป็นสิ่งที่ผมพูดไปในตอนต้น เราไม่สามารถแข่งขันกับหุ่นยนต์ได้ แม้จะเป็นสิ่งที่เราสร้างมันขึ้นมาก็ตาม

นึกภาพง่ายๆ ในไม่ช้านี้ เทคโนโลยีรถยนต์ที่ขับเคลื่อนตัวเองจะกลายเป็นเรื่องจริงที่เราจะเห็นได้ตามท้องถนน แล้วถ้ารถยนต์แบบนี้ถูกนำมาใช้ในระบบขนส่งล่ะ อย่างรถ Taxi , Uber มันสามารถขับได้เหมือนผู้เชี่ยวชาญเส้นทางเพราะมีแผนที่อยู่ในฐานข้อมูล รู้ข้อมูลการจราจรคำนวนระยะทางเวลา แล้วยิ่งค่าแรงขั้นต่ำกว่าใช้คนขับจริงๆ ไม่ปฏิเสธลูกค้าไม่มีอารมณ์ มีความปลอดถัยสูง คงไม่ต้องบอกหรอกครับว่าคนที่ทำอาชีพขับรถแท็กซี่อยู่ทุกวันนี้จะตกงานรึเปล่า ยังมีอีกมากมายหลายงานที่หุ่นจะทำให้มนุษย์ตกงาน เช่น พนักงานเสิร์ฟ งานขุดเหมือง ทำเกษตรกรรม มีความเป็นไปได้ทั้งสิ้น แม้แต่งานสอนหนังสือ หุ่นยนต์สามารถเอาข้อมูลและเทคโนโลยีล้ำๆ ด้านการศึกษาที่มีมาสอนมนุษย์ให้เก่งขึ้นได้อีก เราจะมีครูเป็นหุ่นยนต์กันแล้วนะครับ

image5

ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเทคโนโลยี หุ่นยนต์กำลังบอกว่า มนุษย์กำลังจะเข้าสู่ยุคตกงานแล้วจริงๆ และปัญหาใหญ่ๆ จะตกไปอยู่กับคนยากจนเพราะแรงงานกำลังถูกทดแทน มีการยกตัวเลขในสหรัฐอเมริกาครับ น่ากลัวทีเดียวว่า 90% ของตำแหน่งงานกำลังจะถูดทดแทนด้วยหุ่นยนต์ แล้วถ้าถูดทดแทนแบบนั้นขึ้นจริงๆ จะเกิดอะไรขึ้น แน่นอนว่าตัวเลขนี้ถือเป็นตัวเลขที่สูงมากและมีผู้ที่มีผลกระทบจำนวนมาก การต่อต้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ทำงานก็จะเป็นประเด็นของสังคม ปัญหาการหาข้อตกลงของกฏหมายและสังคมจะเป็นเรื่องที่ยากเรื่องหนึ่ง รวมถึงการถูกควบคุมโดยหุ่นยนต์ก็จะเป็นเรื่องใหญ่ไม่แพ้กันเหมือนในหนังหลายเรื่องเมื่อหุ่นยนต์สามารถทำอะไรได้ตามกระบวนการคิดของตัวเอง ตัดสินใจบางอย่างได้เอง เราก็จะเข้าสู่โลกหนังไซไฟจริงๆ ซะแล้วครับ

แล้วจะเหลืองานอะไรให้เราทำล่ะทีนี้จริงๆ โลกก็ยังไม่ได้เลวร้ายซะทีเดียวนะครับ ยังมีอีกอาชีพจำนวนมากที่ต้องการความชำนาญที่มาจากประสบการณ์ของมนุษย์ ต่อให้หุ่นยนต์ทำอาหารได้ก็ไม่สามารถถูกปากได้เหมือนคนเราทำกันเอง งานบริการอีกจำนวนมากที่ต้องใช้ความพิถีพิถันที่หุ่นยนต์ไม่มีทางที่จะทำได้เหมือนมนุษย์ งานที่เกี่ยวข้องกับศิลปะและวัฒนธรรม งานที่ต้องใช้ความคิดแบบมนุษย์ เพราะฉะนั้นคนยุคหน้าต้องเก่ง Skill สร้างความสามารถเฉพาะตัว แล้วให้งานพื้นฐานปล่อยให้หุ่นยนต์ทำไป นั่นคือเราต้องเก่งขึ้นนั่นเอง ความพึงพอใจของมนุษย์ไม่ได้อยู่ที่การทำอะไรทื่อๆ แบบหุ่นยนต์ ไม่งั้นเก้าอี้นวดคงมาแทนร้านนวดสปาไปหมดแล้ว

ผมก็อยากให้โลกหุ่นยนต์สามารถก้าวไปได้ไกลๆ เพราะก็ยังฝันครับว่าจะมีหุ่นยนต์แบบ โดเรม่อน เข้ามาช่วยให้ชีวิตผมง่ายขึ้นเหมือนกัน ผู้เชียวชาญด้านหุ่นยนต์หลายคนกลับมองการมาของหุ่นยนต์เป็นการเข้ามาช่วยให้โลกดีขึ้นมากกว่า เพียงแค่ว่าเราอาจจะยังนึกไม่ถึง เพราะเราอาจจะดูหนังมากไปมั้งครับไม่เห็นมีเรื่องไหนหุ่นยนต์จะสร้างแต่ประโยชน์ไม่สร้างปัญหาเลย