Niwat Chatawittayakul คอลัมนิส และนักธุรกิจ ปัจจุบันทำธุรกิจด้านวางแผนกลยุทธ์การตลาดและโฆษณาดิจิทัล อีกฝั่งสวมหมวกบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีโดย มุ่งความสนใจไปที่ BigData Blockchain และ Digital Transformation

Glenfiddich นำเสนอความหลากหลายแห่งวิสกี้ที่น่าลิ้มลอง เปิดตัวในไทย

14 sec read

glenfiddich

ซิงเกิลมอลต์ สก็อตซ์วิสกี้ ที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในโลก พร้อมตอบสนองคนรักวิสกี้ทุกรูปแบบ ประเทศไทยกำลังเติบโตเป็นตลาดสำคัญของ Glenfiddich (เกลนฟิดิค) ซิงเกิลมอลต์ สก็อตซ์วิสกี้ที่ได้รับรางวัลยกย่องมากที่สุดในโลก คนไทยที่ชื่นชอบสิ่งที่ดีที่สุดนิยมดื่มด่ำรสชาติที่ล้ำลึกซึ่งช่วยเสริมความโดดเด่นและหลากหลายของอาหารไทยได้เป็นอย่างดี โรงกลั่นที่บริหารงานภายในครอบครัวอายุกว่า 126 ปีที่ถือเป็นโรงกลั่นเอกชนขนาดใหญ่ที่สุดในโลกกำลังมียอดขายเพิ่มมากขึ้นในเมืองไทย เช่นเดียวกับความต้องการให้จัดกิจกรรมการทดสอบรสชาติของวิสกี้ในกลุ่มเพื่อนฝูงและสำหรับองค์กรธุรกิจที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น

Glenfiddich หรือในสกอตแลนด์มีคำเรียกขานว่า ‘Valley of the Deer’ หรือ ‘หุบเขาแห่งกวาง’ เป็นโรงกลั่นแห่งแรกในโลกที่ผลิตซิงเกิลมอลต์ ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งผลิตวิสกี้ที่มีความเชี่ยวชาญโด่งดังไปทั่วโลกและได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในประทศไทย ซิงเกิลมอลต์ วิสกี้ที่เกิดจากโรงกลั่นแห่งเดียวและมาจากข้าวบาร์เลย์ 100 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่เบลนด์วิสกี้มาจากวิสกี้มากกว่าหนึ่งประเภทและไม่ได้มาจากข้าวบาร์เลย์ 100 เปอร์เซ็นต์ ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดคือรายละเอียด กลิ่นและรสชาติของวิสกี้ที่แตกต่างกัน นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมซิงเกิลมอลต์และ Glenfiddich ถึงมีราคาสูง

“ประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญของ William Grant & Sons (วิลเลี่ยม แกรนท์ แอนด์ ซันส์) และยังเป็นตลาดที่สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ของเรา เพราะคนไทยมุ่งเน้นที่คุณภาพและรสชาติเป็นหลัก” มร. มาร์คัส โลว์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริการ ประจำภูมิภาคของ William Grant & Sons กล่าว “แต่ละผลิตภัณฑ์ของเรามาพร้อมกับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อตอบสนองความต้องการของนักดื่มแต่ละคน ตั้งแต่กรุ่นกลิ่นความหอมสดใหม่ของผลไม้และลูกแพรของ Glenfiddich 12 ปี ไปจนถึงความลื่นไหลในความหวานแบบน้ำผึ้งและเผ็ดซ่านอบอุ่นของ Glenfiddich 15 ปี Glenfiddich ได้รับการยอมรับเพิ่มมากขึ้นในเมืองไทย เราเป็นหนึ่งในซิงเกิลมอลต์ วิสกี้ เจ้าแรกที่ส่งออกจากสกอตแลนด์ในปี พ.ศ.2506 และมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นผู้นำในตลาดเมืองไทย”

Glenfiddich เป็นส่วนหนึ่งของ William Grant & Sons โรงกลั่นอิสระที่บริหารงานในครอบครัวซึ่งก่อตั้งตั้งแต่ปี พ.ศ.2429 โดดเด่นด้วยรสชาติและความซับซ้อนที่เกิดจากการผสมผสานความสดของน้ำสะอาดและทักษะชั้นยอดของมอลต์ มาสเตอร์อย่าง มร.ไบรอัน คินส์แมน ซึ่งเป็นมอลต์ มาสเตอร์คนที่หกในประวัติศาสตร์ 126 ปี ด้วยสูตรการปรุงวิสกี้ที่สั่งสมและสืบทอดมายาวนานกว่าห้าเจนเนอเรชั่น วิสกี้ที่สร้างจากประสบการณ์อันช่ำชองของผู้ชำนาญการจึงมีพัฒนาการและความพิถีพิถัน ผสานความเข้มข้นซับซ้อนเข้ากับบุคลิกเฉพาะตัวของ Glenfiddich

“หนึ่งในหน้าที่ของมอลต์ มาสเตอร์คือการตรวจสอบพัฒนาการของถังบ่มเพื่อรักษาคุณภาพและจำแนกเมื่อมีสิ่งผิดปกติหรือความพิเศษเกิดขึ้น” มร. สตรวน แกรนท์ ราล์ฟ แอมบาสซาเดอร์ของ William Grant & Sons กล่าว “การใส่ใจในรายละเอียดและความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมายาวนานทำให้ Glenfiddich มีความโดดเด่นอย่างมาก”

มร. สตรวน กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผลิตภัณฑ์แต่ละประเภทมีความพิเศษ เปี่ยมด้วยสีและกลิ่นที่แตกต่างกันเพื่อดึงดูดลูกค้าที่มีรสนิยมไม่เหมือนกัน อาทิ Glenfiddich 12 ปี มีความโดดเด่นที่ความสดและกลิ่นของผลไม้ ดื่มแล้วมีความนุ่มละมุนค้างต่อเนื่องยาวนานด้วยกลิ่นแพรสดและโอ๊คอันนุ่มนวล ขณะที่Glenfiddich 15 ปี จะสร้างความประทับใจด้วยกลิ่นที่ล้ำลึกของน้ำผึ้งและลูกเกด บอดี้ที่เต็มแน่นและกลิ่นรสที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน สำหรับ Glenfiddich 18 ปี ผลิตแยกส่วนปริมาณน้อย มอบความนุ่มนวลสุดพิเศษและเต็มเปี่ยมด้วยความเป็นซิงเกิลมอลต์ สก็อตซ์วิสกี้อันลึกซึ้ง พร้อมกับกลิ่นอันเข้มข้นของแอปเปิลอบและซินนามอน”

Glenfiddich ทั้ง 12 ปี 15 ปี และ 18 ปีมีจำหน่ายในร้านค้าปลีกบางแห่งในประเทศไทย ขณะที่ผลิตภัณฑ์อื่นอย่าง 21 ปี 30 ปี และ 40 ปี ก็มีจำหน่ายในบางพื้นที่เช่นเดียวกัน

เกี่ยวกับ Glenfiddich
Glenfiddich ซิงเกิลมอลต์ สก็อตซ์วิสกี้ ที่ได้รับรางวัลยกย่องมากที่สุดในโลก มีชื่อเสียงจากการเป็นผู้บุกเบิกขนานแท้ในอุตสาหกรรมนี้ โรงกลั่น Glenfiddich ตั้งอยู่ในเมืองดัฟฟ์ทาวน์ (Dufftown) ในแถบสปีย์ไซด์ (Speyside) ของประเทศสกอตแลนด์ สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2429 โดยวิลเลี่ยม แกรนท์ พร้อมกับบุตรชายเจ็ดคนและบุตรสาวอีกสองคน ปัจจุบัน Glenfiddich ยังคงบริหารงานอย่างเป็นอิสระภายในครอบครัวมาถึงเจนเนอเรชั่นที่ห้าของตระกูลวิลเลี่ยม แกรนท์ ความมีอิสระดังกล่าวเอื้อให้โรงกลั่นสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมและยกระดับมาตรฐานให้สูงขึ้นได้ พร้อมกับสืบสานการผลิตวิสกี้ที่หายากที่สุดในโลกต่อไป Glenfiddich เป็นผู้บุกเบิกกลุ่มผลิตภัณฑ์ซิงเกิลมอลต์ วิสกี้ในปี พ.ศ.2506 ด้วยการเปิดตัววิสกี้ที่มาจากมอลต์แท้ๆ Glenfiddich ยังเดินหน้ารักษาวัฒนธรรมการบุกเบิกที่ริเริ่มโดยแกรนท์ ผู้ก่อตั้ง ทำให้ได้รับรางวัลมากที่สุดในโลกและเป็นซิงเกิลมอลต์ วิสกี้ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในโลก

ผลิตภัณฑ์ของ Glenfiddich ครอบคลุมทั้งแบบ 12 ปี (ปริมาณแอลกอฮอล์ 40% ราคาจำหน่ายปลีก 2,070 บาท) 15 ปี (แอลกอฮอล์ 40% ราคา 2,470 บาท) 18 ปี (แอลกอฮอล์ 40% ราคา 3,380 บาท) และ 21 ปี (แอลกอฮอล์ 40% ราคา 8,999 บาท) รวมถึงซีรีส์ที่หายากและมีมูลค่าสูงอย่าง Glenfiddich 50 ปี ซึ่งราคาขายในปี พ.ศ.2552 อยู่ที่ 38,000 เหรียญสหรัฐฯ ตลอดจนGlenfiddich รุ่น Janet Sheed Roberts Reserve 1955 ที่จำหน่ายผ่านการประมูลในนิวยอร์กด้วยราคาสูงเป็นสถิติ 94,000 เหรียญฯ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เข้าชมได้ที่ www.glenfiddich.com

เกี่ยวกับ William Grant & Sons

William Grant & Sons เป็นผู้ดำเนินงานโรงกลั่นที่ได้รับรางวัลมามากมายโดยบริหารงานภายในครอบครัวอย่างเป็นอิสระ ก่อตั้งโดยวิลเลี่ยม แกรนท์ในปี พ.ศ.2429 ปัจจุบัน จิตวิญญาณของบริษัทได้ถูกสืบทอดมาถึงรุ่นที่ห้าและผลิตแบรนด์สก็อตช์วิสกี้ชั้นนำของโลกมากมาย รวมถึงซิงเกิลมอลต์ยอดนิยมในระดับโลก อาทิ Glenfiddich (เกลนฟิดิค) เดอะบัลเวนีย์ (The Balvenie) และ แกรนท์ เบลนด์วิสกี้ (Grant’s) ตลอดจนเครื่องดื่มอื่นๆอย่าง เฮนดริก จิน (Hendrick’s Gin) เซเลอร์ เจอร์รี่ (Sailor Jerry)
มังกี้ โชลเดอร์ (Monkey Shoulder) และเรย์ก้า วอดก้า (Reyka Vodka)

เข้าชมข้อมูลเพิ่มเติมของบริษัทและแบรนด์ต่างๆ ได้ที่ www.williamgrant.com